รู้ข้อดีข้อเสียก่อนกิน คอลลาเจน เป็นอาหารผิวที่ดีจริงหรือ?
คอลลาเจน – ในยุคที่ผู้หญิงสมัยใหม่ต้องทำงานทั้งในบ้านและงานนอกบ้าน ทำให้ต้องเผชิญกับแสงแดด ฝุ่น ควัน หรือมลภาวะต่าง ๆ ที่อาจทำร้ายผิวของคุณได้ ส่งผลให้ผิวที่เคยมีสุขภาพดีดูโทรมลงเนื่องจากปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและความหย่อนคล้อยลงตามวัย ยิ่งช่วงอายุมากขึ้น‘คอลลาเจน’ในร่างกายที่เป็นตัวช่วยทำให้ผิวและกล้ามเนื้อแน่น ตึง กระชับ เริ่มลดลง เราจึงต้องหาตัวช่วยที่จะทำให้ผิวกลับมาอ่อนเยาว์ มีสุขภาพดี และเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ
หลายคนจึงนิยมรับประทาน‘คอลลาเจน’เพื่อเติมอาหารให้กับผิวและเติมเต็มคอลลาเจนที่ร่างกายสูญเสียไป แต่คอลลาเจนเป็นอาหารผิวที่ดีจริงหรือ? วันนี้เราจึงหยิบยกข้อดี-ข้อเสียของการกินคอลลาเจนมาให้ดูกัน
ข้อดี-ข้อเสียของการกินคอลลาเจนเป็นประจำ
‘คอลลาเจน’คือเส้นใยโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในผิวหนัง ขน และเส้นผม ทำหน้าที่เปรียบเสมือนกาวที่คอยยึดเกาะส่วนต่าง ๆ ในร่างกายให้แน่นและกระชับ เมื่อมีการรับประทานคอลลาเจนเป็นประจำจึงมีทั้งข้อดีและข้อเสียดังนี้
ข้อดี
1. คอลลาเจนช่วยรักษาโรคข้อเสื่อม
การศึกษาและวิจัยของ University of Tuebingen ประเทศเยอรมนี ในหัวข้อ “โรคข้อเสื่อม” ได้ทดลองโดยให้ผู้ที่มีภาวะข้อเสื่อมจำนวน 2,000 คน รับประทานคอลลาเจนในปริมาณ 5,000 มิลลิกรัมต่อวันติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน พบว่าคอลลาเจนสามารถช่วยลดอาการอักเสบจากการเคลื่อนไหวในบริเวณข้อกระดูกอ่อนได้
2. คอลลาเจนช่วยลดเลือนริ้วรอย
งานวิจัยจากสถาบันผิวหนังของประเทศญี่ปุ่น ได้ทดสอบโดยการให้ผู้หญิงจำนวน 47 คนที่มีอายุระหว่าง 33-55 ปี รับประทานคอลลาเจนในปริมาณ 10,000 มิลลิกรัมต่อวันติดต่อกันนาน 3 เดือน พบว่าผิวหนังมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ริ้วรอยลดลง แผลเป็นจางลง และผิวมีความชุ่มชื้นขึ้น
3. คอลลาเจนช่วยให้ผิวกระจ่างใส
คอลลาเจนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิต ทำให้ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินส่งผลให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น แถมยังช่วยป้องกันฝ้า กระ และจุดด่างดำได้อีกด้วย
ข้อเสีย
1. ระดับแคลเซียมในร่างกายอาจสูงเกินไป
สถาบันสุขภาพแห่งชาติ (National Institutes of Health) ในสหรัฐอเมริการะบุว่า การกินคอลลาเจนที่มาจากแหล่งทางทะเล เช่น ปลาหรือหอย อาจทำให้เกิดแคลเซียมในปริมาณที่สูงซึ่งมีผลทำให้ร่างกายมีอาการท้องผูก ปวดกระดูก คลื่นไส้ มีอาการอ่อนล้า และมีอัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ
2. อาจก่อให้เกิดอาการแพ้
คอลลาเจนส่วนใหญ่มักจะนิยมใช้สารสกัดจากสัตว์ทะเลน้ำลึก ดังนั้นผู้ที่แพ้อาหารทะเลควรหลีกเลี่ยงการกินคอลลาเจนที่มีสารสกัดจากสัตว์ทะเล เพราะอาจก่อให้เกิดอาการบวมที่ริมฝีปาก คลื่นไส้อาเจียน ผื่นขึ้นตามร่างกาย หรืออาจก่อให้เกิดอาการคัดจมูกทำให้หายใจลำบากได้
3. ไตทำงานหนัก
ไตมีหน้าที่กำจัดของเสียออกจากร่างกาย หากเรากินคอลลาเจนหรืออาหารเสริมทุกชนิดติดต่อกันนานเกินไปอาจส่งผลให้มีสารตกค้างในร่างกายทำให้ไตต้องทำงานหนักขึ้น จึงเสี่ยงต่อการเกิดภาวะไตพังหรือไตวายได้ ยิ่งหากคุณเป็นโรคไตอยู่แล้วควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารเสริมทุกชนิดจะดีที่สุด
ถ้าหยุดกินคอลลาเจนร่างกายจะเป็นอย่างไร?
การกินคอลลาเจนให้ได้ผลควรกินอย่างต่อเนื่อง 3-6 เดือนตามคำแนะนำของแต่ละผลิตภัณฑ์เพื่อให้เห็นผลอย่างชัดเจน หากเรากินคอลลาเจนจนได้ผลลัพธ์เป็นที่พอใจแล้ว สามารถหยุดกินได้เช่นกัน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับสารอาหารบางชนิดมากจนเกินไป
เราอาจจะเคยได้ยินว่าควรทานอาหารเสริม 3 เดือน เว้น 3 เดือนเพื่อไม่ให้ตับพัง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของอาหารเสริมที่เรากินด้วย เพราะอาหารเสริมบางชนิดต้องกินต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานจึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ซึ่งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตหรือการเลือกรับประทานอาหารก็สามารถคงความอ่อนวัยของผิวได้ด้วยวิธีดังนี้
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง อาหารปิ้งย่าง หรืออาหารสำเร็จรูป เพราะอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อการทำงานของคอลลาเจนในร่างกายได้
- รับประทานอาหารที่มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งความเสียหายและการสูญเสียคอลลาเจน เช่น ปลาแมคเคอเรล วิตามินอี อัลมอนด์ รวมถึงวิตามินซีที่สามารถช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนได้
- หลีกเลี่ยงมลพิษทางสิ่งแวดล้อมจากฝุ่นควัน สารเคมี ยาฆ่าแมลง
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่หรือการสูดดมควันบุหรี่จากผู้อื่น เนื่องจากบุหรี่มีสารนิโคตินที่ส่งผลต่อหลอดเลือดบริเวณผิวหนังชั้นนอกตีบแคบลง เป็นสาเหตุให้ผิวสูญเสียน้ำและเกิดร่องรอยลึก
- ป้องกันผิวจากแสงแดด เพราะรังสียูวีในแสงแดดทำให้ปริมาณคอลลาเจนในผิวลดลง โดยการทำลายเส้นใยคอลลาเจนทำให้คอลลาเจนสลายตัวได้เร็วขึ้น รวมถึงแสงหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ปล่อยรังสียูวีออกมา เราจึงควรทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันอยู่เสมอ
การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ แต่ด้วยปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เราจึงต้องหาตัวช่วยเสริมอย่าง ‘คอลลาเจน’ เพื่อให้ผิวสุขภาพดีอยู่กับเราไปได้นาน ๆ ทีนี้เราก็รู้ทั้งข้อดีและข้อเสียของคอลลาเจนแล้ว อย่าลืมเลือกกินคอลลาเจนชนิดที่เหมาะสมกับตัวเราเอง และอ่านคำแนะนำบนฉลากก่อนการกินทุกครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ที่มา :
- คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดดล นิตยสารวาไรตี้เพื่อสุขภาพ. รู้ลึก รู้ชัด กับ “คอลลาเจน”. https://med.mahidol.ac.th/atrama/issue005/varieties-corner
- Livestrong. 3 Possible Side Effects of Collagen Supplements You Should Know About. https://www.livestrong.com/article/325664-side-effects-of-taking-collagen-supplements/
- Beauty-worthen. ไม่เอาไม่ดี ห้ามเด็ดขาด! ข้อห้ามการกินคอลลาเจน https://beauty-worthen.com/229
- POBPAD.คอลลาเจนบำรุงผิวใสและรักษาโรคข้อเสื่อมได้ชัวร์หรือไม่ ? https://www.pobpad.com/คอลลาเจน-บำรุงผิวใสและร
- SANOOK. ทานอาหารเสริมอย่างไร ไม่ให้ตับอักเสบ-ติดเชื้อในกระแสเลือด https://www.sanook.com/health/5689/