คอลลาเจนข้อเข่า ทางเลือกบำรุงด้วยสารอาหารจากธรรมชาติ

เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายของเราก็เริ่มที่จะถดถอยลงตามกาลเวลา แน่นอนเลยว่าเรื่องที่อยากให้อยู่คู่กับเราไปนานตลอดชีวิตนั่นก็คือ การมีสุขภาพดีดั่งวัย 20 ต้น ๆ ที่สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างคล่องตัว ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย หรือ การทำงานที่ใช้ร่างกายเป็นหลัก แต่ในปัจจุบันพบว่าวัยทำงานอายุเพียงเลขสามก็มีอาการเจ็บป่วยที่เริ่มมาถามหากันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็น อาการปวดเมื่อย ปวดหลัง รวมไปถึงการปวดข้อเข่า ซึ่งสาเหตุหนึ่งก็มาจาก ปัญหาคอลลาเจนลดลง

แม้ว่าโดยส่วนใหญ่แล้วภาวะนี้จะพบในผู้สูงอายุก็จริง แต่ในปัจจุบันคนที่เริ่มใช้ร่างกายอย่างหนักจากการทำงานก็เริ่มพบเห็นอาการเหล่านี้ได้เช่นกัน แน่นอนเลยว่าวันนี้พวกเราจะมาพูดถึงภาวะ “ข้อเข่าเสื่อม” รวมทั้งการแก้เรื่องนี้ด้วยโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแบบสารพัดอย่าง “คอลลาเจน” ที่สามารถลดอาการของข้อเข่าเสื่อมอย่างได้ผลนั่นเอง โดยในบทความนี้พวกเราได้รวบรวมข้อมูล รวมทั้งเรื่องราวที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาแนะนำ ไม่ว่าจะเป็น อาการของโรค ปัจจัยสำคัญมากมาย ซึ่งถ้าคุณได้อ่านข้อมูลเหล่านี้จะทราบเลยว่าประโยชน์ของ คอลลาเจนข้อเข่า จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยบำรุงร่างกายแบบเป็นธรรมชาติ ไร้สารเคมี


รู้หรือไม่ ? คอลลาเจนข้อเข่า ลดทำให้ข้อเข่าเสื่อมได้

คอลลาเจนข้อเข่า

สำหรับผู้ที่ได้รู้จัก “คอลลาเจน” พร้อมทั้งทราบคุณสมบัติไปบ้างแล้ว กับ การที่เป็นตัวช่วยในการเสริมสร้างความยืดหยุ่นภายในผิวหนัง รวมทั้งเป็นกาวในจุดที่สำคัญอย่าง เอ็น ข้อ กล้ามเนื้อ แน่นอนเลยว่าคอลลาเจนคือโปรตีนที่มีความสำคัญต่อร่างกาย ยิ่งอายุมากขึ้น อัตราการผลิตในร่างกายก็น้อยลงไปตามวัย แต่ทว่าการสูญเสียคอลลาเจนนั้นไม่มีวันหยุด ซึ่งอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด หรือ สารเคมี ที่คุณเองจะต้องพบเจอทุกวัน จะทำให้ทำร้ายผิว รวมไปถึงการทำงานอย่างหนักในแต่ละวันจะส่งผลให้ข้อเข่า หรือ ส่วนที่ร่างกายใช้งานบ่อยเสื่อมลงทุกวันอย่างแน่นอน แต่รู้หรือไม่ว่าเรื่องนี้แก้ไขได้ด้วยการทาน “คอลลาเจน” หรือ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า คอลลาเจนไทพ์ทู (Collagen Type II) เป็นอีกหนึ่งประเภทคอลลาเจนที่สามารถช่วยลดอาการข้อเข่าเสื่อมได้ด้วยเช่นกัน หากคุณอยากรู้ว่าคอลลาเจนจำเป็นมากแค่ไหน อ่านต่อได้ที่  คอลลาเจนจําเป็นต้องกินไหม


รู้จัก คอลลาเจนข้อเข่า Collagen Type II

คอลลาเจนข้อเข่า

คอลลาเจนชนิดที่ 2 เป็นชื่อที่คุณหูกับใครหลายคน แต่การเจาะจงที่จะช่วยรักษา แก้ปัญหาเข่าเสื่อมนั้น ยังมีอีกหลายคนยังไม่ทราบถึงคุณสมบัติชนิดนี้ เพราว่า Collagen Type II สามารถช่วยป้องกันข้อเข่าเสื่อม อาการปวดข้อ รวมทั้งช่วยเสริมสร้างสุขภาพข้อเข่าให้สมบูรณ์แข็งแรงด้วย แน่นอนเลยว่าความเชื่อนี้มีผลการวิจัยรับรองมาแล้วว่า คอลลาเจนชนิดนี้จะเข้าไปกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารต้านอาการปวด บวม หรือ อักเสบ อีกทั้งเพิ่มปริมาณน้ำในข้อเข่า อีกทั้งการศึกษายังพบว่า Hydrolyzed Collagen เป็นคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการย่อยบางส่วน จะช่วยลดอาการปวดข้อ รวมทั้งยังช่วยเสริมสุขภาพข้อต่อได้เช่นกัน 

ทั้งนี้ประโยชน์ของคอลลาเจนชนิดที่ 2 ยังคงต้องมีการวิจัย ศึกษาต่อเพิ่มเติมในเรื่องความมั่นใจ รวมทั้งความปลอดภัยให้มากขึ้น เพราะจะทำให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในคอลลาเจนชนิดนี้นั่นเอง โดยคอลลาเจนไทพ์ทูนี้ จะพบวางขายอยู่ในรูปแบบของ Denatured Collagen Type II หรือที่เรียกว่า Hydrolyzed Collagen Type II ซึ่งจะเป็นการผ่านกระบวนการทำให้คอลลาเจนมีขนาดเล็กลง จะทำให้ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น 

สำหรับ Collagen Type II นั้น โดยทั่วไปแล้วจะรับประทานในรูปแบบอาหารเสริมระยะสั้นจะปลอดภัยต่อร่างกายมากกว่า แต่สำหรับบางรายอาจจะรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นรู้สึกไม่สบายท้อง ท้องเสีย หรือ มีอาการแสบร้อนกลางอก ซึ่งผู้ที่สนใจจะต้องรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมกับที่ระบุบนฉลาก หรือ รับประทานตามแพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด ใน่สวนของสตรีมีครรภ์ที่ยังให้นมบุตรอยู่นั้น ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยที่น่าเชื่อถือพอ จะต้องปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรง

เป็นอีกหนึ่งเรื่องของ “คอลลาเจน” ที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะช่วยบำรุงผิว ช่วยต้านอนุมูลอิสระแล้ว บทบาทในการรักษาข้อเข่า เสริมสร้างกระดูก ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่โปรตีนชนิดนี้คือส่วนสำคัญที่ร่างกายต้องการ แต่จะรู้ได้อย่างไรเมื่อข้อเข่าเสื่อม หรือ มีภาวะเข่าเสื่อม พวกเราก็มีข้อมูลอาการของข้อเข่าเสื่อมมางฝากเช่นกัน 


อาการของข้อเข่าเสื่อม

คอลลาเจนข้อเข่า

ในหัวข้อนี้เราจะมาเจาะลึกเกี่ยวกับเรื่องของอาการ หรือ สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณเองนั้นกำลังจะกลายเป็นคนข้อเข่าเสื่อม หรือ โรคข้อเข่าเสื่อมนั่นเอง ซึ่งแน่นอนเลยว่าอาการทั่วไปจะเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ ส่งผลให้คนทั่วไปจะละเลยปัญหานี้ไปเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น อาจจะมีอาการขึ้นมาเพียงชั่วครู่ หรือ เกิดอาการปวด มีอาการแปลกที่ข้อเข่าเป็นเวลาสั้น เมื่ออาการเหล่านั้นหายไปเป็นปกติ ทำให้ไม่ได้กลับมาคิดว่าจะกลายเป็นโรคนี้นั่นเอง โดยอาการที่เกิดขึ้นจะมีดังต่อไปนี้

1.ปวดหัวเข่า

อาการแรกเริ่มของโรคนี้เลยก็คือ เริ่มมีอาการปวดหัวเข่านั่นเอง ซึ่งจะปวดมากเมื่อมีการเคลื่อนไหว การใช้งาน การเดินขึ้น หรือ ลงบันได รวมไปถึงการที่จะต้องนั่งยอง ๆ หรือ นั่งพับเพียบ ที่จะต้องใช้หัวเข่าในการเคลื่อนย้าย เมื่อพบอาการปวดแต่จะลดลงหลังจากได้พัก ซึ่งอาการนี้จะพบได้ในชีวิตประจำวันของทุกคนอยู่แล้ว โดยทั่วไปอาจจะกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันบ้าง หรือ อาจจะไม่โดยตรงอาจจะทำให้ใครหลายคนละเลย ซึ่งถ้าหากว่าปัญหานี้เป็นมาติดต่อกันมากกว่า 6 เดือน ควรที่จะรีบปรึกษาแพทย์ทันที 

2.เสียงกรอบที่หัวเข่า

อีกหนึ่งอาการที่เป็นสัญญาณบอกว่าหัวเข่าของคุณมีปัญหา นั่นก็คือเรื่องของเสียงที่ดังกรอบแกรบ เพราะการเสียดสีของเยื้อบุภายในข้อ หรือ เอ็นที่หนาตัวขึ้น มีความขรุขระของกระดูกอ่อน ซึ่งเมื่อมีการลุกจากท่านั่ง มีเสียงที่หัวเข่า แสดงว่าเป็นอาการที่บอกว่ามีปัญหาเกี่ยวกับข้อเข่านั่นเอง ในบางรายอาจจะมีอาการปวดร่วมด้วย

3.ข้อเข่าติด ตึง แข็ง มีอากรฝืด 

สำหรับอาการนี้จะพบได้ชัดเจนในช่วงเวลาตื่นนอน ซึ่งจะมีอาการฝืดตึงที่หัวเข่า เคลื่อนไหวลำบากยามเช้า แต่ทว่าอาการนี้เป็นไม่นานก็จะค่อย ๆ หายไป ดีขึ้นตามลำดับ แน่นอนเลยว่าอาการนี้อาจจะเกิดในช่วงเวลาที่อยู่ในท่าใดท่าหนึ่งเป็นเวลานาน ซึ่งจะทำให้ข้อต่อขาดความยืดหยุ่นนั่นเอง แน่นอนเลยว่าจะมีอาการที่รู้สึกว่าเหยียด งอเข่า ได้ไม่สุดเหมือนที่เคยทำได้อีกด้วย 

4.มีอาการเสียวที่หัวเข่า

เวลาเดิน หรือ ร่างกายมีการเคลื่อนไหวพบว่ามีอาการเสียวที่หัวเข่า นี่แหละคือเรื่องที่บอกว่าคุณเองกำลังจะเข้าสู่ภาวะข้อเข่าเสื่อมด้วยเช่นกัน แน่นอนเลยว่าสาเหตุของเรื่องนี้เกิดจากความผิดปกติของตัวข้อเข่า ตัวอย่างเช่น ข้อเข่าหลวม หรือ กล้ามเนื้อต้นขาอ่อนแรงนั่นเอง เมื่อเกิดอาการแบบนี้ค่อนข้างที่จะอันตรายต่อข้อเข่าเป็นอย่างมาก 

5.มีอาการเข่าบวม รู้สึกร้อน กดแล้วเจ็บ

อาการนี้ค่อนข้างไปในทิศทางที่รุนแรง กับ อาการเข่าบวม รู้สึกร้อน กดแล้วเจ็บ โดยจะเป็นผลมาจำน้ำในข้อเข่านั้นมีมากขึ้น รวมทั้งกระดูกที่งอกที่ขอบข้อเข่า เวลาที่คลำจะรู้สึกแข็ง โดยในบางรายนอกจากมีอาการปวดแล้วก็ยังพบว่ามีอาการเจ็บที่ข้อเข่าด้วยเช่นกัน ถ้าคุณมีอาการดังกล่าวควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษาในทันทีเพราะว่าข้อเข่าของคุณมีความผิดปกติแล้วแน่นอน 

6.มีข้อเข่าโก่งงอ ข้อเข่าผิดรูป ต้นขาลีบ 

สำหรับอาการของโรคข้อเข่าเสื่อมที่สามารถเห็นได้ชัดเจนนั่นก็คือ อาการดังกล่าวข้างต้น ซึ่งอาจจะมีลักษณะโก่งด้านนอก หรือ โก่งด้านใน ต้นขาลีบ ผิดรูป แน่นอนว่าลักษณะดังกล่าวจะทำให้ขาสั้นลง หรือ ทำให้ใช้ชีวิตประจำวันลำบากมากขึ้น เมื่อมีการเคลื่อนไหวของร่างกาย 

สำหรับทั้ง 6 ข้อของอาการข้อเข่าเสื่อมที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนั้น จะประกอบไปด้วย 4 ระยะของความรุนแรง แน่นอนเลยว่าเมื่อคุณรู้สึกว่าเริ่มเป็น แต่ยังคงใช้ชีวิตได้ตามปกติจัดประเภทได้ว่ายังคงอยู่ในระยะที่ 1 ส่วนในระยะที่ทำงานหนักไม่ได้แล้ว จัดให้อยู่ในระยะที่ 2 ในส่วนของระยะที่ 3 กับ 4 จะค่อนข้างอันตรายเพราะว่าคุณเองจะไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ ทำงานไม่ได้ รวมทั้งไม่สามารถเดินได้ นี่คือข้อที่รุนแรงมากที่สุดของอาการข้อเข่าเสื่อมนั่นเอง 

สำหรับผู้ป่วย หรือ คุณเองรู้สึกว่ายังอยู่ในระยะที่ 1 นั้น จะต้องรีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง การใช้ชีวิต รวมไปถึงการหลีกเลี่ยงในเรื่องที่ต้องนั่งกดทับข้อเข่า การคุกเข่า นั่งยอง ๆ เป็นเวลานาน จะรวมไปถึงกิจกรรมทั้งหมดที่ต้องใช้งานข้อเข่าหนัก ก็จำเป็นที่จะต้องพัก พร้อมทั้งให้แพทย์ตรวจสอบว่าเหมาะสมถึงจะสามารถใช้งานได้ตามปกติ อย่างไรก็ตามถ้าหากว่าคุณเองละเลยในจุดนี้ก็จะทำให้คุณเข้าสู่ภาวะที่ 2 , 3 และ 4 ตามลำดับต่อไป 


อาการปวดแบบใด ที่ต้องรีบหาหมอ ? 

คอลลาเจนข้อเข่า

เป็นอีกหนึ่งคำถามที่ใครหลายคนยังคงสงสัย เพราะว่าโรคข้อเข่าเสื่อมนั้นส่วนใหญ่แล้วจะพบได้ในผู้สูงอายุ หรือ ผู้ป่วยโรคเฉพาะทาง แต่ทว่าอาการรุนแรงแค่ไหน หรือ ลักษณะแบบไหนที่ต้องรีบไปหาหมอเพื่อขอคำแนะนำ พวกเราได้รวบรวมมาให้ 3 อาการดังต่อไปนี้

  • มีอาการปวดหัวเข่าอย่างรุนแรง ถึงแม้ว่าไม่ได้เคลื่อนไหวก็ตาม

สำหรับอาการดังกล่าวถึงแม้ว่าคุณอยู่เฉย ๆ แบบไม่ได้เคลื่อนที่ยังมีอาการปวด รวมทั้งมีการเคลื่อนไหวเมื่อไหร่ ลงน้ำหนักในการเดินหรือวิ่ง มีอาการปวดมาก นี่แหละคือสัญญาณของข้อเข่ามีการอักเสบสะสม ต้องรีบพบแพทย์ในทันที 

  • มีอาการปวดหัวเข่า มีอาการบวมช้ำ 

อาการบวม มีผลมาจากการอักเสบอย่างแน่นอนแบบที่ทุกคนทราบ แต่ทว่ามีอาการปวดร่วมด้วยค่อนข้างที่จะอันตรา ดังนั้นจะต้องรีบปรึกษาแพทย์ในทันที เพราะเสี่ยงมากที่จะเกิดอาการอักเสบขั้นรุนแรง รวมทั้งอาการข้างเคียงอื่นที่อาจจะเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ปวดเข่าจนเป็นไข้ ตัวร้อนร่วมด้วย 

  • มีอาการปวดร้าวลงไปที่ขา พร้อมทั้งงอเข่าได้ไม่สุด 

อาการปวดเข่าปวดร้าวลงไปที่ขา เมื่อเกิดอาการเช่นนี้เสี่ยงมากที่อาจจะมีอะไรที่ติดอยู่ในข้อเข่า ตัวอย่างเช่น มีหินปูนเกาะที่ข้อเข่า หรือ ข้อเข่าสึก เมื่อมีอาการเช่นนี้ให้รีบพบแพทย์ทันที


แนวทางการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม 

คอลลาเจนข้อเข่า

เมื่อได้เรียนรู้กันไปแล้วว่า โรคข้อเข่าเสื่อม จะมีอาการที่คุณเองสามารถสังเกตได้อย่างชัดเจน แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้ใครหลายคนละเลยปัญหานี้ก็คือ การปวดแล้วหายไปจนทำให้คุณเองไม่อยากที่จะไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยให้กระจ่างว่า ข้อเข่าของคุณยังคงใช้งานได้หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่ แต่สำหรับใครที่พบปัญหาเหล่านี้ พร้อมทั้งยังอยู่ในขั้นตอนการรักษา พวกเราก็มีแนวทางการรักษาโรคนี้ ที่จะทำให้คุณไร้กังวลเลยว่าภาวะนี้จะรักษายาก โดยจะมีวิธีการรักษาดังต่อไปนี้ 

1.การรักษาโดยไม่ใช้ยา

สำหรับการรักษาด้วยวิธีนี้จะเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต เช่น หลายคนหันมาลดน้ำหนัก เพื่อลดภาระที่ข้อเข่าจะต้องรับน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการบริการข้อ การออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และที่สำคัญจะต้องมีการปรับการใช้ข้อเข่าแบบถูกวิธีเพื่อที่จะห่างไกลจากโรคข้อเข่าเสื่อมนั่นเอง

2.การรักษาแบบ กายภาพบำบัด

สำหรับใครที่ยังรักษาอยู่ในขั้นตอนนี้ เชื่อเลยว่าจะเป็นการรักษาในรูปแบบที่เป็นไปตามธรรมชาติมากที่สุด โดยการกายภาพบำบัด จะเป็นการฟื้นฟูบริหารกล้ามเนื้อ เพื่อบรรเทาอาการปวดบริเวณข้อเข่า ซึ่งจะมีการรักษาอื่นร่วมด้วยไม่ว่าจะเป็น การใช้เลเซอร์รักษา การทำอัลตราซาวด์ รวมไปถึงการใช้ผ้ารัดเข่าที่จะทำให้ลดอาการปวดข้อเข่าได้ 

3.การรักษาโดยการใช้ยา 

สำหรับในกลุ่มของผู้ป่วยที่ไม่สามารถรักษาในรูปแบบของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรือ กายภาพบำบัดค่อนข้างยากแล้ว ก็อาจจะต้องใช้ยาในการรักษาทั้งแบบรับประทาน หรือ แบบฉีด เพื่อบรรเทาอาการปวด ลดการอักเสบ ซึ่งจะช่วยปรับเปลี่ยนโครงสร้างของข้อ โดยจะต้องดูแล รวมทั้งสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น ซึ่งจะมีอันตรายในกรณีที่ต้องซื้อยารับประทานเอง เพราะอาจจะรักษาได้ไม่ถูกจุดนัก 

4.การรักษาด้วยการผ่าตัด 

ในปัจจุบัน การผ่าตัดจะได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะว่าได้ผลดีมาก ทำให้ผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับอาการข้อเข่าเสื่อม กลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติมากขึ้น โดยไม่มีอาการเจ็บเข่า หรือ ทรมานอีกต่อไป โดยการผ่าตัดจะทำได้หลายวิธีดังต่อไปนี้ 

  • การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า (Arthroplasty)
  • การผ่าตัดเปลี่ยนแนวกระดูก (Osteotomy)
  • การผ่าตัดเพื่อให้ผิวข้อเข่ามาชิดกัน (Arthrodesis)

สำหรับวิธีการผ่าตัดในแต่ละแบบ ความเหมาะสมของปัญหา กับ อาการของผู้ป่วยก็จะแตกต่างกันไป ซึ่งก่อนการผ่าตัดนั้นก็จะต้องมีการตรวจประเมิน วางแผนการรักษาร่วมกับคนไข้ด้วย


ปัจจัยที่ทำให้ ข้อเข่าเสื่อม

คอลลาเจนข้อเข่า

ในเรื่องนี้เราต้องขออธิบายให้ชัดเจนว่า สาเหตุ หรือ ปัจจัยใดบ้างที่ทำให้ข้อเข่าของคุณนั้นเสื่อม ซึ่งแน่นอนเลยว่าปัญหาเรื่องแรกเลยก็คืออายุที่มากขึ้น ย่อมทำให้ร่างกายเสื่อมถอยลงตามกาลเวลา แต่ทว่ายังคงมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้ข้อเข่าเสื่อม โดยมีการแบ่งออกเป็น 2 ปัจจัยหลัก ซึ่งจะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 

1.สาเหตุจากความเสื่อมแบบปฐมภูมิ 

ความเสื่อมของข้อเข่านั้น จะยกเหตุผลแรกเลยก็คือ การเสื่อมแบบไม่ทราบสาเหตุ เป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้จากร่างกายที่เสื่อมสภาพตามวัย โดยมีตัวอย่างดังนี้

  • เกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น

ด้วยอายุที่มากขึ้น จะทำให้ร่างกายเสื่อมไปตามวัย ซึ่งปัจจัยนี้คือเรื่องที่พบได้บ่อยที่สุด เพราะอายุที่มากกว่า 40 ปี เป็นต้นไป จะเริ่มพบปัญหาอาการเจ็บป่วยบ่อยครั้ง รวมทั้งความเสื่อมของกระดูก กล้ามเนื้อ เส้นประสาท อีกทั้งในวัยเลข  5-6 ก็จะเริ่มมีอาการปวดเข่า ซึ่งนี่คือเรื่องของข้อเข่าเสื่อมตามวัยนั่นเอง 

  • เกิดจากเพศ 

จะพบภาวะข้อเข่าเสื่อมได้ในเพศหญิงมากกว่าผู้ชาย 2-3 เท่า ด้วยเหตุผลทางด้านการขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน ที่เป็นตัวป้องกันความเสื่อมของกระดูกอ่อนผิวข้อเข่า โดยในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนนั้นจะทำให้ข้อเข่าเสื่อมง่ายกว่าปกติด้วยเช่นกัน 

  • เกิดจากรรมพันธุ์ 

จากการวิจัย รวมทั้งการศึกษาของต่างประเทศ จะพบได้ว่ากรรมพันธุ์ ก็มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับโรคข้อเข่าเสื่อมด้วยเช่นกัน โดยมีคนไข้ที่ครอบครัวเป็นโรคเข่าเสื่อมอยู่แล้ว ก็มีโอกาสที่จะทำให้เกิดภาวะนีด้วยเช่นกัน 

  • เกิดจากน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน

เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องพูดถึง เพราะว่าในปัจจุบันมาตรฐานน้ำหนักตัวของแต่ละคนนั้นเกินไปสักนิด โดยเฉพาะในวัยทำงาน หรือ ผู้สูงวัยบางคนเริ่มมีน้ำหนักตัวที่มากขึ้น ด้วยน้ำหนักที่มากขึ้น 0.5 กิโลกรัม จะเพิ่มแรงที่ทำต่อข้อเข่า 1-5 กิโลกรัมด้วย อีกทั้งเซลล์ไขมันในร่างกายที่มากเกินไป ก็จะทำให้กระดูกอ่อน หรือ เซลล์กระดูก เกิดเสื่อมเร็วได้กว่าปกตินั่นเอง ด้วยเหตุนี้การดูแลเรื่องอาหาร รวมทั้งการลดน้ำหนักจึงเป็นเรื่องที่ควรทำอย่างยิ่งถ้าไม่อยากเข้าสู่ภาวะข้อเข่าเสื่อมนั่นเอง

  • การใช้งานเข่าที่มากเกินไป 

อีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงทำให้ข้อเข่าเสื่อมนั่นก็คือ การใช้งานที่มากเกินไปนั่นเอง การใช้ขา หรือ หัวเข่าผิดท่า อยู่ในรูปแบบที่ไม่เหมาะสม ตัวอย่างเช่นในกลุ่มคนทำงานที่จะต้องยืนนาน ๆ หรือ ยกของหนัก มีการขึ้นลงบันไดบ่อย ๆ การก้มยกของ รวมไปถึงการกระทำที่มีแรงกดต่อข้อเข่ามาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น การคุกเข่า นั่งขัดสมาธิ รวมทั้งนั่งพับเพียบ เป็นต้น 

2.สาเหตุจากความเสื่อมแบบทุติยภูมิ

ความหมายของ การเสื่อมของข้อเข่าแบบทุติยภูมิ นั่นก็คือ ความเสื่อมที่เราเองนั้นทราบถึงสาเหตุอยู่แล้ว โดยจะแบ่งออกเป็นปัจจัยดังต่อไปนี้ 

  • เกิดจากอุบัติเหตุ

ร่างกาย เมื่อได้รับบาดเจ็บจากการประสบอุบัติเหตุต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบนถนน หรือ ในชีวิตประจำ ที่เกี่ยวข้องกับบริเวณข้อ เอ็น แน่นอนเลยว่าการเล่นกีฬาต่าง ๆ ก็ทำให้มีส่วนเกิดภาวะข้อเข่าเสื่อมด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นเหตุการณ์สำคัญอย่าง การล้มแล้วเข่าบิด เกิดการแทกอย่างรุนแรงที่เข่า มีกระดูกรอบข้อเข่าหัก รวมทั้งมีเลือดออกในข้อเข่าด้วย ซึ่งสาเหตุเหล่านี้จะส่งผลโดยตรงไปยัง “ข้อเข่า” นอกจากจะมีอาการปวดแล้ว ก็เสี่ยงต่ออาการข้อเข่าเสื่อมเร็วขึ้น

  • เกิดจากโรคบางชนิด

ใครหลายคน ไม่ได้ประสบอุบัติเหตุ หรือ มีการทำกิจกรรมที่ทำให้ข้อเข่าเสื่อม ก็สามารถเกิดภาวะนี้ได้จากโรคบางชนิด ซึ่งได้แก่ โรคเก๊าท์ โรคข้อเข่าติดเชื้อ โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคที่เกี่ยวกับอวัยวะนอกข้อเข่า ข้ออักเสบ แน่นอนเลยว่าผู้ป่วยโรคเหล่านี้ค่อนข้างที่จะต้องระมัดระวังเกี่ยวกับข้อเข่า รวมทั้งร่างกายให้มากด้วย 


จะเห็นได้เลยว่าปัจจัยที่ส่งผลให้ข้อเข่าเสื่อมนั้นมีหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการเกิดแบบไม่ทราบสาเหตุ ความแข็งแรงของร่างกาย น้ำหนักตัวที่มากขึ้น การใช้งานเข่าที่ผิดวิธี ก็ส่งผลให้ข้อเข่าเสื่อมได้ทั้งนั้น ในส่วนของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ ภายในชีวิตประจำวัน ก็ทำให้เกิดความเสี่ยงได้เช่นกัน สุดท้ายก็คือการเจ็บป่วยเป็นโรคบางชนิดที่ส่งผลโดยตรงให้ข้อเข่าเสื่อมเป็นผลข้างเคียงด้วย แน่นอนเลยว่าสิ่งสำคัญที่สุดก็คือการรักษาสุขภาพที่แข็งแรงให้ยั่งยืนตลอดไป รวมทั้งการดูแลข้อเข่าด้วยวิธีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกาย หรือ การรับประทานอาหารเสริมอย่างคอลลาเจนไทพ์ทู ที่ช่วยดูแลข้อเข่าโดยตรงนั่นเอง


คอลลาเจนข้อเข่า เพิ่มได้ด้วยวิธีใด

คอลลาเจนข้อเข่า

เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่จะขอแนะนำเอาไว้ เกี่ยวกับ คอลลาเจนไทพ์ทู หรือ คอลลาเจนที่จะช่วยบำรุงในส่วนของข้อเข่า โดยเป็นโปรตีนที่จะเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาข้อเข่าเสื่อม เสริมข้อเข่าให้สุขภาพดี แต่ทว่ายังมีอีกหลายวิธีที่จะช่วยให้เสริมข้อเข่าของคุณให้แข็งแรง พร้อมรับกับทุกปัญหาที่จะต้องเจอ รวมทั้งการใช้ชีวิตประจำวันด้วย โดยจะมีทั้งหมด 5 วิธีเสริมดังต่อไปนี้ 

1.เสริมด้วยสารสกัดจากขมิ้นชัน 

สำหรับสารสกัดดังกล่าวนี้ จะมีสารกลุ่มคูเคอร์มินอยด์ ซึ่งจะมีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบ รวมทั้ง สารต้านอนุมูลอิสระในตัวด้วย โดยในงานวิจัยนั้นจะมีการยืนยันเลยว่าสารชนิดนี้จะช่วยบรรเทาอาการข้อเข่าอักเสบได้ อีกทั้งในปัจจุบันยังมีการพัฒนาให้สารกลุ่มนี้สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้เร็วขึ้น แต่ทว่าผู้ที่มีปัญหาเรื่องท่อน้ำดีอุดตันนั้น ไม่ควรที่จะรับประทาน โดยจะส่งผลเสียต่อร่างกายแทนกว่าผลดี 

2.รับประทานคู่กับ วิตามิน ซี 

วิตามินซี คืออีกหนึ่งสารต้านอนุมูลอิสระที่ได้รับความนิยม พร้อมทั้งมีชื่อเสียงที่ช่วยในการผลิตคอลลาเจนด้วย โดยจุดเด่นของ วิตามินซีคือจะช่วยให้คอลลาเจนที่รับประทานเข้าไปดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้เป็นอย่างดี แน่นอนเลยว่าการทำงานของ คอลลาเจนกับวิตามินซี ก็จะช่วยบำรุงข้อเข่าได้ดีด้วยเช่นกันนั่นเอง 

3.รับประทานคู่กับ วิตามิน เอ 

วิตามิน เอ แหล่งที่พบได้คือจากผัก ผลไม้ ซึ่งเมื่อทานคู่กันกับ คอลลาเจน ก็จะทำให้เสริมมวลกระดูก ช่วยเพิ่มคุณสมบัติให้กับคอลลาเจนทำงานในส่วนนี้ได้ดีขึ้นนั่นเอง เพราะการเติบโต ซ่อมแซม ของมวลกระดูกจะมีวิตามินชนิดนี้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยนั่นเอง 

4.รับประทานคู่กับ วิตามิน ดี 

โดยวิตามินดี 3 จะช่วยเสริมสร้างกระดูกให้มีความแข็งแรง อีกทั้งความเสี่ยงเรื่องของกระดูกแตก หรือ กระดูกหัก ก็จะลดลงด้วย อีกทั้งยังป้องกันโรคกระดูกพรุนด้วยเมื่ออายุมากขึ้น 

5.รับประทานคู่กับ วิตามิน อี 

สำหรับวิตามิน อี จะมีคุณสมบัติเด่นเลยก็คือ ลดการอักเสบของข้อต่อ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระทำงานคู่กับคอลลาเจนได้ดีทุกประเภท แน่นอนเลยว่าจะทำให้ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้นนั่นเอง


จะเห็นได้เลยว่า วิตามิน ในประเภทที่กล่าวมาจะช่วยให้คอลลาเจนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะช่วยให้กระดูก ข้อต่อ รวมทั้งผิวพรรณ ดูสดใสเปล่งปลั่ง สุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้ว่าคอลลาเจนในไทพ์ทู จะมีคุณสมบัติเด่นที่ช่วยบำรุงข้อเข่า ก็ยังคงต้องการงานวิจัยอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจากธรรมชาติที่ปลอดภัยต่อร่างกาย แต่ในตลาดคอลลาเจนก็ยังต้องระวังของปลอม ของเถื่อนด้วย ดังนั้นแล้วจึงต้องหาซื้อจากตัวแทนผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจาก สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) รวมทั้งซื้อจากดีลเลอร์ที่น่าเชื่อถือด้วย 

สำหรับภาวะข้อเข่าเสื่อม เป็นอีกหนึ่งโรคที่หลายพบเจอได้ในปัจจุบัน นอกจากจะมีปัจจัยในเรื่องของอายุที่ทำให้เกิดภาวะนี้แล้วก็จริง แต่ในวัยทำงาน หรือ ผู้เริ่มเข้าสู่วัยทอง ก็เริ่มที่จะมีอาการที่เกี่ยวข้องกับข้อเข่า เนื่องจากการใช้ร่างกายที่หนักในแต่ละวัน ความเครียด โรคร้ายแรง ทุกสาเหตุทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะนี้ ดังนั้นการเริ่มต้นดูแลตัวเองตั้งแต่ตอนนี้จึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เพราะการมีข้อเข่าที่แข็งแรงก็จะทำให้คุณยังคงทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบายเช่นกัน การเลือกบำรุงด้วยคอลลาเจนรักษาข้อเข่า ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยดูแลคุณจากภายในสู่ภายนอก ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ซึ่งทั้งหมดนี่ก็คือบทความที่รวบรวมเอาอาการของภาวะนี้ ปัจจัยที่ทำให้เกิด และที่สำคัญ วิธีแก้ปัญหาที่คุณสามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป พวกเราหวังว่าข้อมูลทั้งหมดที่แนะนำในบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจภาวะ โรคข้อเข่าเสื่อมมากขึ้น ใครที่เข่าข่ายต้องรีบบำรุงแล้ววันนี้ 


อ้างอิง