คอลลาเจนช่วยอะไร ? ทำไมต้องทาน มีความจำเป็นหรือไม่

คอลลาเจนช่วยอะไร ? ทำไมต้องทาน มีความจำเป็นหรือไม่

เรื่องสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญในชีวิต เมื่อมีสุขภาพที่แข็งแรง ก็จะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะทำงาน หรือ หาความท้าทาย แน่นอนเลยว่าหนทางไหนก็แล้วแต่ ที่จะช่วยทำให้ชีวิตดีขึ้น หรือ สุขภาพดีขึ้นได้ คนอย่างเราก็หาทุกวิธีเพื่อตอบโจทย์เรื่องนี้แน่นอน สำหรับวันนี้จะขอแนะนำอีกหนึ่งเรื่องอย่างการทานอาหารเสริมที่กำลังเป็นที่นิยม มาแรงมากอย่าง “คอลลาเจน” ที่มีข้อดีหลังจากการบอกต่อกันว่า กินตัวนี้แล้วดี ใช้แล้วผิวใส ดูมีออร่า แต่ที่จริงแล้ว คอลลาเจนช่วยอะไร หรือ เหตุผลที่ทำไมจะต้องทาน และ เจ้าอาหารเสริมชนิดนี้มีความจำเป็นในชีวิตหรือไม่ วันนี้พวกเราจึงได้รวบรวมคำตอบของทุกคำถามเอาไว้ที่นี่ ด้วยคำตอบเรื่อง ประโยชน์ของคอลลาเจน รวมทั้งวิธีกินให้ได้ผลจริง ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร ติดตามอ่านกันได้ในบทความนี้ 


ประโยชน์ของคอลลาเจน

คอลลาเจนช่วยอะไร

หัวข้อใหญ่ในวันนี้ คงมีหลายคนตั้งคำถามเกี่ยวกับ อาหารเสริมชนิดนี้เป็นอย่างมากว่าจะสามารถช่วยได้จริงตามคำโฆษณา หรือ การบอกต่อกัน แท้จริงแล้วเป็นการขายตรง หรือ เป็นเรื่องหลอกลวงหรือไม่ อย่างไรก็ดี คงปฎิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันของคนบางคน กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ไปแล้วสำหรับในชีวิตประจำวัน โดยมีหลายคนรู้จักกันดี ซึ่งด้านดีที่เป็นประโยชน์กับสิ่งที่โดดเด่นในเรื่องของการดูแลผิวพรรณ ที่ Collagen มีส่วนประกอบให้ผิวหนังของคุณมีโครงสร้างผิวที่มีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้นนั่นเอง ก่อนอื่นเลยต้องเริ่มทำความเข้าใจกันก่อนว่า คอลลาเจนดียังไง และมีที่ไปที่มาอย่างไรบ้าง


ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ “คอลลาเจน”

คอลลาเจนช่วยอะไร

คอลลาเจน คือ โปรตีนชนิดหนึ่ง ที่เป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนังของเรา โดยมีสัดส่วนประกอบนี้สูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ด้วยกัน โดยหน้าที่ของโปรตีนชนิดนี้ จะทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมโครงสร้างของเนื้อเยื่อต่าง ๆ ภายในร่างกายของเรา ไม่ว่าจะเป็นผิวหนัง กระดูก รวมทั้ง ข้อ เล็บ เอ็น และ กล้ามเนื้อ ซึ่งตัวคอลลาเจนจะอยู่ที่ผิวหนังชั้นล่างของเรา ดังนั้นการทาครีมภายนอก โดยทั่วไปแล้วจะไม่ส่งผลโดยตรงถึงส่วนนี้นั่นเอง นี่คืออีกหนึ่งเหตุผลที่เราจะต้องบำรุงผิวพรรณด้วยอาหารเสริมอย่าง “คอลลาเจน” นั่นเอง 

ที่สำคัญ ขอเอ่ยให้เป็นความรู้กันหน่อยว่า ร่างกายของเรานั้นมีคอลลาเจนมากถึง 16 ชนิดด้วยกัน โดยชนิดที่เราจะสามารถพบได้บ่อย ๆ ก็คือ Collagen 5 ชนิด ซึ่งมีดังต่อไปนี้

  • Collagen Type I หรือ คอลลาเจนชนิดที่ 1 เป็นตัวที่พบได้มากที่สุดในร่างกาย จะช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่น มีคุณสมบัติในการสมานแผล โดยจะพบได้ในผิวหนัง เส้นผม กระดูก เนื้อเยื่อ รวมทั้งผนังหลอดเลือด 
  • Collagen Type II หรือ คอลลาเจนชนิดที่ 2 สำหรับชนิดนี้จะมีความยืดหยุ่นมากกว่าแบบแรก โดยพบมากในกระดูก กระดูกอ่อน รวมทั้งข้อต่อ ที่มีส่วนช่วยในการสร้างกระดูกอ่อน 
  • Collagen Type III หรือ คอลลาเจนชนิดที่ 3 สำหรับชนิดนี้จะพบใน ผิวหนัง กล้ามเนื้อ รวมทั้งหลอดเลือด 
  • Collagen Type V หรือ คอลลาเจนชนิดที่ 5 สำหรับคอลลาเจนชนิดนี้จะพบได้ในบริเวณเดียวกันกับ Type 1 หรือ ตัวใต้ชั้นผิวหนัง รวมทั้งในเนื้อเยื่อของทารกในระหว่างตั้งครรภ์

สังเกตได้เลยว่า “คอลลาเจน” เป็นโปรตีนที่อยู่ทั่วร่างกายของเรา ซึ่งโดยปกติแล้ว ร่างกายจะมีการสร้าง รวมทั้งการสลาย Collagen ในปริมาณที่สมดุลกัน แต่เมื่อตอนที่เรามีอายุ 40 ปี ขึ้นไปนั้น ในส่วนระบบเกี่ยวกับการสร้างคอลลาเจน จะลดลงประมาณ ร้อยละ 1 ต่อปี ในขณะที่อัตราการสลายยังเท่าเดิมอยู่ จึงเป็นเหตุที่ทำให้คอลลาเจนในร่างกายของเราลดลงเรื่อย ๆ แม้จะเป็นตัวเลขที่น้อย แต่ก็ส่งผลเป็นอย่างมากต่อผิวพรรณ ซึ่งนี่แหละคือสิ่งที่ทำให้เกิดริ้วรอย เพราะ Collagen ใต้ผิวหนังลดลง คุณสามารถอ่านรายละเอียดของประเภทคอลลาเจนเพิ่มเติมได้ที่ คอลลาเจนแบบไหนได้ผลจริง?


เข้าใจถึงประโยชน์แท้จริง “คอลลาเจน” 

คอลลาเจนช่วยอะไร

ทั้งหมดนี่แหละคือเรื่องราวของ คอลลาเจน ที่ทำให้คลายข้อสงสัยได้เลยว่า เมื่อกินคอลลาเจนเข้าไป แล้วจะมีผลดีต่อร่างกายได้อย่างไร ซึ่งจะช่วยซ่อมแซมในส่วนของผิวพรรณ ที่ถึงแม้ว่าจะยังเป็นวัยรุ่น หรือ ยังไม่ถึง 40 ปี ก็สามารถทานได้ไม่เป็นอันตราย โดยมีงานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวข้องกับโปรตีนชนิดนี้ ให้เหตุผลเกี่ยวกับการเกิดประโยชน์ที่แท้จริงของ Collagen ที่แท้จริงได้ดังต่อไปนี้ 

  • ช่วยเรื่องความยืดหยุ่น การกินคอลลาเจน มีงานวิจัยได้เปิดเผยว่า มีการช่วยเพิ่มเรื่องความยืดหยุ่น ความชุ่มชื้น ความฟู รวมทั้งลดความหยาบกร้านของผิว สังเกตได้เลยว่าคนที่ผิวแห้งบ่อย ๆ เมื่อได้กินคอลลาเจนเข้าไปเสริม จะทำให้ผิวดีขึ้น มีออร่า ดูสุขภาพดี ประกอบกับช่วยทำให้ริ้วรอยที่เห็นได้ชัดนั้น ดูจางลงไป เรื่องนี้เห็นผลได้จริงจากหลาย ๆ คน 
  • ลดการเปราะ ชะลอการสลาย เล็บ ไม่ว่าจะป็นมือ หรือ เท้า ทำไม? บางคนถึงเปราะง่าย แตกง่าย แต่กับบางคนแข็งมาก นี่แหละคือคอลลาเจน ที่จะเข้าไปช่วยเสริมให้เล็บมีความสมดุลมากขึ้น รวมถึงการช่วยชะลอสลายของมวลกระดูก เมื่อทานคู่กับแคลเซียม และ วิตามินดี
  • ลดอาการปวดข้อในผู้สูงอายุ อย่างที่บอกกันไปว่า คนเราจะลดการผลิตคอลลาเจนลงตอนอายุ 40 ปี ลองคิดภาพดูว่า เมื่อเราชราลงไปโดยที่ไม่ได้รับคอลลาเจนเลย จะเป็นอย่างไร แน่นอนว่าอาการปวดข้อ หรือ ปวดขา จะมาเยี่ยมแน่นอน ดังนั้นแล้ว Collagen จะช่วยลดอาการปวดข้อในผู้สูงอายุได้เช่นเดียวกัน 

มีเคล็ดลับเล็กน้อยสำหรับการเลือกกินคอลลาเจนให้ได้ผลดี จะแนะนำให้เลือกคอลลาเจนแบบสายสั้น หรือ hydrolyzed collagen ด้วยเหตุผลที่เป็นคอลลาเจนที่ผ่านการ hydrolysis จนมีขนาดเล็กลง ข้อดีของการเลือกก็คือ จะทำให้ร่างกายขอคุณดูดซึมได้ง่ายขึ้น โดยจะกลายเป็นองค์ประกอบของการสร้างคอลลาเจนในร่างกายได้ดีขึ้น 


วิธีกินคอลลาเจนให้ได้ผล

คอลลาเจนช่วยอะไร

คอลลาเจน คือ อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการให้ผิวพรรณดูดีขึ้นในช่วงเวลาอันรวดเร็ว รวมทั้งระยะยาว เพราะว่ามีผลิตภัณฑ์ที่ให้โฆษณาว่าสุขภาพผิว รวมทั้งช่วยซ่อมแซมในส่วนที่สึกหรอของร่างกายได้เป็นอย่างดีในระยะเวลาอันสั้น แต่ทว่าบางคนก็มีการดูดซับโปรตีนชนิดนี้ที่แตกต่างกัน บางรายก็เห็นผลเร็ว บางรายก็เห็นผลได้ช้า แต่เรื่องนี้ถูกให้เหตุผลเกี่ยวกับ วิธีกิน รวมทั้ง พฤติกรรมในชีวิตประจำวันร่วมกันด้วย ซึ่จะมีวิธีไหนที่เห็นผลได้เร็ว พร้อมฝึกตัวเองได้ในทุกวัน ซึ่งมีวิธีการดังต่อไปนี้ 

  • ทานคอลลาเจน ตอนท้องว่าง ผิวใสได้ตลอดเมื่อเลือกทานคอลลาเจนตอนท้องว่าง แน่นอนเลยว่าการทานเพื่อให้ผิวใสที่ได้ผลมากที่สุดคือตอนที่ช่วงท้องกำลังว่าง หรือว่าผ่านมือหนักไปแล้ว 3-4 ชั่วโมง ด้วยสาเหตุนี้มีเหตุผลอยู่ว่า ร่างกายจะสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งไม่ถูกกรดในกระเพาะอาหารรบกวน หรือ ทำลายนั่นเอง
  • กินแบบผง ดีกว่าแบบเม็ด การเลือกทานคอลลาเจนในประเภทที่เป็นผง หรือ เป็นแบบน้ำ จะดีกว่าแบบที่เป็นเม็ด เพราะเหตุผลหลักเลยก็คือ การดูดซึมที่เร็วกว่ามาก เพราะตัวของคอลลาเจนแบบเม็ด จะละลายเวลา 20-30 นาทีในร่างกายเลยทีเดียว โดยการกินแบบผง หรือ แบบน้ำดีกว่าที่ตาเห็น ขอแนะนำเลยก็คือ การเลือกซื้อคอลลาเจนแบบ Collagen Tripeptide เพราะมีโมเลกุลเล็กมาก ช่วยให้ดูดซึม และ นำไปใช้งานได้อย่างรวดเร็ว 
  • กิน พร้อมน้ำเยอะ ๆ ทานคู่กับวิตามินซี การทานคอลลาเจน พร้อมกับการดื่มน้ำตามให้มาก ๆ นั้น จะได้ผลเป็นอย่างมาก เพราะการซึมเข้าสู่ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายนั้น จะต้องใช้น้ำมากๆ เมื่อเรายิ่งดื่มน้ำเยอะ ก็จะทำให้ขับเสียของง่ายขึ้น ซึ่งส่งผลให้ระบบต่าง ๆ ดีขึ้น รวมถึงระบบที่ดูดซับคอลลาเจนด้วยเช่นกัน 

ส่วนการทานวิตามิน ช่วยด้วยจะทำให้ช่วยระบบดูดซึมคอลลาเจน ได้ดีขึ้น อีกทั้งยังมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวหน้า ผิวกาย เปล่งปลั่งมากขึ้นด้วย ซึ่งเป็นผลพลอยได้ทั้ง 2 รูปแบบเลยทีเดียว แต่หากคุณแพ้อาหารทะเลคุณสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บทความ แพ้อาหารทะเลกินคอลลาเจนได้หรือไม่?


5 ข้อที่ต้องทำ ช่วยเสริมสร้าง ประสิทธิภาพให้คอลลาเจน

คอลลาเจนช่วยอะไร

การเลือกกิน หรือ เลือกปฏิบัติ คือ หนึ่งในเรื่องสำคัญที่จะเป็นสิ่งที่เสริมสร้างประสิทธิภาพ ให้คอลลาเจน ดูดซึมเข้าร่างกายได้อย่างดี แน่นอนว่า รวมไปถึงการเลือกกินอาหารทั้งแบบชะลอการสลาย รวมทั้งส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนด้วยนั่นเอง โดยมี 5 ข้อสำคัญดังต่อไปนี้ 


1.กินโปรตีนต่อวัน ให้เพียงพอ

คอลลาเจน คือ โปรตีนชนิดหนึ่ง ซึ่งการกินโปรตีนให้เพียงพอต่อวัน จะช่วยในการสร้างคอลลาเจนได้อย่าเต็มที่ ซึ่งการกินโปรตีนจากเนื้อสัตว์ นม ไข่ หรือ ธัญพืชต่าง ๆ ให้เพียงพอต่อความต้องการต่อวัน จะคิดได้ว่า 1-1.2 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ตัวอย่างเช่นถ้าหากว่าเรามีน้ำหนักที่ 50 กรัม ตัวเราจะต้องทานโปรตีนให้ได้ 50-60 กรัม ต่อวัน หรือจะเทียบเท่ากับการเลือกกินเนื้อสัตว์ไม่ว่าจะเป็นหมู ปลา ไก่ รวมกันให้ได้ประมาณ 200-250 กรัม ซึ่งข้อดีของการกินโปรตีนที่ดีนั้น จะทำให้ร่างกายย่อยเป็นกรดอะมิโน เพื่อนำไปสร้างคอลลาเจนไปใช้ปรับสมดุลให้กับร่างกายได้มีประสิทธิภาพดีมากขึ้นนั่นเอง 


2.กินอาหารที่มี วิตามิน ซี, เอ, อี 

คอลลาเจน จะมีวิตามิน ซี คอยช่วยกระตุ้นการสร้างให้ได้ผลมากที่สุด ซึ่งจะได้ประโยชน์ของทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งเรื่องผิวพรรณ รวมทั้ง ร่างกายที่แข็งแรงด้วย ซึ่งแหล่งของวิตามินซี คือ ผักและผลไม้ต่าง ๆ

ส่วนทางด้านวิตามิน เอ จะช่วยกระตุ้นการเติบโตของ “ไฟโบรบลาสต์” ซึ่งมีหน้าที่ในการสร้างคอลลาเจน กับ อิลาสติน ของร่างกาย โดยจะยังคงทำให้ร่างกายมีผิวที่เปล่ง เต่งตึง แหล่งวิตามินได้จะอยู่ที่ เนื้อสัตว์ ไข่ นม รวมทั้งผักใบเขียวอย่าง ตำลึง ผักบุ้ง  แครอท และ มะละกอสุก 

วิตามิน อี คือ สารที่ทำหน้าที่ในการ ต้านอนุมูลอิสระ โดยจะทำงานคู่กับ วิตามิน ซี โดยแหล่งที่ได้รับวิตามินชนิดนี้ได้แก่ น้ำมันพืช น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง อีกทั้งในปัจจุบันยังพบใน ถั่วแอลมอนด์ อาโวคาโด กีวี่ รวมทั้ง มะม่วงด้วย 


3.หลีกเลี่ยงการทานหวาน 

การทานหวานมากเกินไป หรือ ทานหวานบ่อย ๆ มักจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีต่อสุขภาพอยู่แล้วสำหรับคนรักสุขภาพ แต่ที่มีผลต่อ การกินคอลลาเจนเลยก็คือ กระบวนการ “ไกลเคชั่น” ที่จะเป็นผลทำให้ คอลลาเจนนั้น เสียรูปร่าง กับ ไม่ยืดหยุ่นในแบบที่ควรจะเป็น 


4.ดื่มน้ำ ให้เพียงพอในแต่ละวัน

การดื่มน้ำ คือ การดูตัวเองในขั้นพื้นฐานสำหรับคนรักสุขภาพเลยก็ว่าได้ เพราะว่าน้ำคือสิ่งสำคัญในการดำรงชีวิต ถ้าหากว่าดื่มน้ำไม่พอ จะทำให้ระบบในการสร้างคอลลาเจน รวมทั้ง ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายผิดปกติไปด้วย โดยปกติแล้วคนเราจะต้องดื่มน้ำประมาณ 2 ลิตรต่อวัน หรือ 8-10 แก้ว นี่แหละคือตัวเลขที่คุณจะต้องปฏิบัติตามให้ได้ 


5.พักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียด

สิ่งที่คนรักสุขภาพ หรือ ต้องการดูแลผิวพรรณอย่างเคร่งครัด จะต้องมีการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ก็คือ 8 ชั่วโมง ซึ่งในบางรายอาจจะทำงานจนลืมไปว่าสุขภาพก็ต้องดูแล มีพฤติกรรมนอนน้อย หรือ นอนไม่เป็นเวลา สิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้คุณเป็นคนที่มีความเครียดสะสม เครียดง่าย หงุดหงิดง่าย ดังนั้นแล้ว ถ้าคุณอยากจะให้การกินคอลลาเจนของคุณเห็นผลได้เร็ว รวมทั้งเป็นไปในทางที่ดี จะต้อง พักผ่อนให้เพียงพอต่อวัน รวมทั้ง ลดความเครียด หรือ วิตกกังวลในชีวิต นอกจากจะได้ผลต่อการดูดซับคอลลาเจนแล้ว สุขภาพก็จะแข็งแรงมากขึ้นด้วย 


สำหรับทั้งหมดนี้ก็คือ ข้อมูลที่พวกเราได้รวบรวมมาแนะนำกัน เกี่ยวกับ การทานคอลลาเจน ไม่ว่าจะเป็น การทำความรู้จักกับ คอลลาเจนอย่างแท้จริง รวมไปถึงประโยชน์ อีกทั้งระบบที่จะช่วยให้ผลดีต่อการกินคอลลาเจนเพิ่มมากขึ้น ที่สำคัญ วิธีกิน กับ วิธีดูแลตัวเอง ในระหว่างที่คุณกำลังกินคอลลาเจน ไม่ว่าจะเป็นของแบรนด์ไหน เมื่อคุณเริ่มทานเข้าไปแล้ว ก็จะต้องเลือกวิธีให้ได้ผลมากที่สุดด้วย เพื่อให้เห็นผลเร็ว หรือ มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี บทความนี้ก็คือคำตอบของคำถามที่ว่า คอลลาเจนช่วยอะไร? ทำไมต้องทาน มีความจำเป็นหรือไม่ พวกเราหวังว่าคุณผู้อ่านคงจะได้คำตอบกันไปแบบครบถ้วนแล้วในบทความนี้ 


แหล่งที่มา : 

https://www.nestle.co.th/th/nhw/3e/eat/eating-tips-to-boost-collagen-production

https://www.watsons.co.th/blog/th/skincare-tips-th/
https://www.topspicks.tops.co.th/single-post/5-effective-ways-to-take-collagen