ทำไงดี? แพ้อาหารทะเล แต่อยากเพิ่มคอลลาเจนให้ผิว

ทำไงดี? แพ้อาหารทะเล แต่อยากเพิ่ม คอลลาเจน ให้ผิว

หลายคนมักได้ยินคำกล่าวอ้างต่าง ๆ เกี่ยวกับ “คอลลาเจน” มามากมายซึ่งบางอย่างก็เป็นความจริง บางอย่างก็เชื่อถือไม่ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นความจริงคือ เมื่อคนเราอายุเพิ่มขึ้น ร่างกายจะสร้างคอลลาเจนน้อยลงเรื่อย ๆ จนส่งผลต่าง ๆ มากมาย เช่น ผมร่วง ปวดกระดูก ผิวหยาบแห้งกร้าน ดูไม่สดใส เอาล่ะ รู้ถึงผลเสียแล้วอยากเพิ่มคอลลาเจนให้ผิวบ้าง แต่แพ้อาหารทะเล ทำไงดี หรือใช้ไฮโดรไลซ์คอลลาเจนได้หรือไม่? มาสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ คนแพ้อาหารทะเลและคอลลาเจนกันดีกว่า

ทำไงดี? แพ้อาหารทะเล แต่อยากเพิ่มคอลลาเจนให้ผิว

แพ้อาหารทะเลแล้วกินคอลลาเจนได้ไหม?

คอลลาเจนที่ขายในปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะผลิตมาจากเนื้อเยื่อเกี่ยวพันของสัตว์ วัว หรือ หมู เช่น ไขข้อกระดูกข้อต่อ, กระดูกอ่อน, เอ็น, หนัง, กระดูก รวมไปถึงหนังปลาทะเลน้ำลึก ปลาแซลมอน กุ้ง หอย หรือ ปลาหมึก ด้วยคำถามที่ว่า คนแพ้อาหารทะเลสามารถกินคอลลาเจนได้ไหม? และ คอลลาเจนจําเป็นต้องกินไหม ? คำตอบขอแจงเป็นข้อแนะนำ ดังนี้

ถ้าคุณแพ้อาหารทะเล ควรหลีกเลี่ยงคอลลาเจนที่สกัดมาจาก ปลาหมึก กุ้ง หอย และจากแหล่งทางทะเลอื่น ๆ โดยเฉพาะจำพวกที่เป็นเปลือกนั้น หรือ ผลิตภัณฑ์คอลลาเจนที่ผสมไซโตไค เพราะอาจทำให้มีการแพ้ในอนาคตได้ ซึ่งการแพ้อาหารทะเลมีทั้งแบบที่แสดงอาการทันที และต้องใช้เวลานานกว่าจะมีอาการ อย่างไรก็ตาม สุดท้ายก็จะเกิดปัญหาเรื่องแพ้ได้อยู่ดี เพราะถ้าเคยแพ้แล้วยังรับเข้าร่างกายเรื่อย ๆ จะทำให้ยิ่งแพ้มากขึ้นไปอีก

ทางเลือกอื่น ๆ ที่ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน

หากผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคอลลาเจนและการเข้าสถาบันเสริมความงามยังไม่ใช่คำตอบ นอกจาก คอลลาเจนไทพ์ทูหรือไทพ์อื่น ๆ แล้ว คุณยังมีทางเลือกอื่น ๆ อีกมากมาย ที่สามารถเติมคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกาย ชะลอแก่ก่อนวัย ได้นั่นก็คือ รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพที่คุ้นเคย ปลอดภัยหายห่วง เรียกได้ว่า เป็นคอลลาเจนที่ดีที่สุดในโลกเท่าที่จะหาได้ ส่วนใหญ่เป็นเมนูอาหารที่กินเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ใครจะไปรู้ว่ามีคอลลาเจนแฝงอยู่ การเลือกทานอาหารที่อุดมไปด้วยคอลลาเจน 8 อย่าง ที่เรากำลังจะแนะนำนี้ มีคุณประโยชน์มากมายได้มากกว่าคอลลาเจนแน่นอน

1. ผักผลไม้สีแดง

ผักผลไม้ที่มีสีแดง เช่น สตรอวเบอร์รี่ แอปเปิ้ล เชอร์รี่ เบอร์รี่ มันฝรั่งแดง และมะเขือเทศ ล้วนอุดมไปด้วยไลโคปีน ถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเยี่ยม ช่วยทำให้ผิวพรรณเนียนนุ่มและขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

2. กะหล่ำปลี

กะหล่ำปลีมีสารที่เรียกว่า ลูติน (lutein) ถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการเสริมสร้างคอลลาเจน อุดมไปด้วยวิตามินบี 6 แมงกานีส โฟเลท แมกนีเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แคลเซียม และธาตุเหล็ก

3. แตงกวา

แตงกวาอุดมไปด้วย กำมะถันที่มีส่วนสำคัญในการใช้สร้างคอลลาเจน นอกจากนี้ ยังช่วยรักษาปัญหาผิวอื่น ๆ ได้หากกินเป็นประจำ เช่น รอยแดงจากสิว รอยดำ ริ้วรอย ช่วยลดปัญหาสิวอุดตันให้ได้ดี

4. แครอท

ผักสีส้มอย่างแครอท อุดมไปด้วยวิตามินเอ มีประโยชน์ต่อสายตาโดยตรง และช่วยเข้าไปกระตุ้นร่างกายให้ผลิตคอลลาเจนมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยปรับสมดุลของอีลาสติน ทำให้ผิวไม่แห้งเกินไป ไม่เพียงเท่านั้น ในแครอทยังมีสารฟอลคารินอลที่ช่วยต่อต้านเซลล์มะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย

5. ถั่วและธัญพืช

ถั่วและธัญพืช อุดมไปด้วยไฮยาลูโรนิคที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้น และเพิ่มการผลิตคอลลาเจนให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี

ทำไงดี? แพ้อาหารทะเล แต่อยากเพิ่มคอลลาเจนให้ผิว

6. น้ำมันอะโวคาโด

ภายในอะโวคาโดนั้นอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินอี วิตามินดี กรดลิโนเลอิก กรดโอเลอิก ไฟโตสเตอรอล และเลซิติน เมื่อสกัดมาเป็นน้ำมันก็จะยิ่งซึมซาบเข้าสู่ผิวได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

7. ถั่วเหลือง

นมถั่วเหลือง น้ำเต้าหู้ และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองทุกชนิด ถือเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า ไอโซฟลาโวน โดยมีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างคอลลาเจนให้กับร่างกาย อีกทั้งยังอุดมไปด้วยโปรตีนที่ช่วยในการซ่อมแซมผิวพรรณให้แข็งแรงขึ้น

8. ส้มและมะนาว

ส้มและมะนาวอุดมไปด้วยวิตามินซี ที่มีคุณประโยชน์ในการผลิตคอลลาเจน ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ แก้ปัญหาผิวไหม้ และช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิวได้เป็นอย่างดี

9. ไข่

ไข่เป็นอาหารที่มีคอลลาเจนในตัวเองเหมือนอย่างน้ำซุปกระดูก ร่างกายของเราสามารถรับคอลลาเจนโดยตรงจากการรับประทานไข่แดง โดยในไข่ยังมีกำมะถันซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการผลิตคอลลาเจนและการล้างพิษตับ ซึ่งหมายความว่าสารพิษที่ทำลายคอลลาเจนจะถูกขับออกจากร่างกาย ถึงแม้ว่าคุณประโยชน์มากมาย ก็ควรรับประทานไข่ในปริมาณที่เหมาะสม เพียง 2 ใบต่อวันก็เพียงพอต่อร่างกายแล้ว

ข้อมูล

  1.  แพ้อาหารทะเลแล้วกินคอลลาเจนได้ไหม : www.pobpad.com/ถาม/หัวข้อ/แพ้อาหารทะเลในระดับต่ำ
  2.  ไม่ใช่ทุกคนที่กินได้ “วิตามิน คอลลาเจน” : www.dailynews.co.th/article/201499