ทำไมกินคอลลาเจนมานาน แต่ไม่เห็นผล

ทำไมกิน คอลลาเจน มานาน แต่ไม่เห็นผล

สงสัยไหมว่าทำไมกิน ‘คอลลาเจน’ มาตั้งนานไม่ว่าจะทั้งแบบเม็ด แบบผง หรือลองมาหลายยี่ห้อก็ยังไม่เห็นผลลัพธ์อะไรเลย ทำให้เราเริ่มสงสัยว่าอาหารเสริมคอลลาเจนนั้นได้ผลจริงหรือ คอลลาเจน ทำให้ผิวขาวได้หรือไม่? ซึ่งจริง ๆ แล้วการกินคอลลาเจนให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีมีปัจจัยหลายอย่าง เช่น พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันหรือการรับประทานอาหารของเราก็อาจส่งผลให้กินคอลลาเจนแล้วไม่เห็นผลได้ มาเช็คกันว่าคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้หรือไม่

ทำไมกินคอลลาเจนมานาน แต่ไม่เห็นผล

ปัจจัยที่ทำให้กินแล้วไม่เห็นผล

  •  กินคอลลาเจนไม่ต่อเนื่อง – การประสบความสำเร็จในเรื่องต่าง ๆ ย่อมต้องมีวินัยอยู่เสมอ การกินคอลลาเจนให้ได้ผลก็เช่นกัน เพราะคุณต้องมีวินัยในการกินคอลลาเจนต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกวัน โดยทั่วไปแล้วการกินคอลลาเจนให้เห็นผลจะอยู่ที่ 30-60 วันขึ้นไป
  •  กินคอลลาเจนในปริมาณที่น้อยเกินไป – องค์การอาหารและยา (อย.) แนะนำผู้ที่กินอาหารเสริมคอลลาเจนให้สามารถกินได้ในปริมาณ 5,000-7,000 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ไม่ควรเกิน 10,000 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งหากร่างกายได้รับคอลลาเจนในแต่ละวันไม่เพียงพอก็อาจไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ใด ๆ ได้ หากคุณอยากรู้ว่ามันจำเป็นต่อร่างกายแค่ไหน สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คอลลาเจน จำเป็นต่อร่างกายแค่ไหน?
  •  กินคอลลาเจนที่ไม่ได้คุณภาพ – ปัจจุบันมีคอลลาเจนในท้องตลาดให้เลือกกินหลายรูปแบบหรือหลากหลายแบรนด์ ที่มีสารสกัดแตกต่างกันออกไปเป็นจำนวนมาก ผู้บริโภคจึงควรพิจารณาถึงความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของแต่ละแบรนด์ว่ามีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด
  •  ไม่ปกป้องผิวจากมลภาวะ – ปัจจัยที่ทำให้ร่างกายสูญเสียคอลลาเจนก็มีทั้งฝุ่น ควัน แสงแดด หรือความเครียด ดังแล้วเราต้องมีการปกป้องร่างกายจากมลภาวะเหล่านี้ด้วยการปิดแมสในสถานที่มีมลภาวะค่อนข้างสูง ทาครีมกันแดด และรู้จักผ่อนคลายจากความเครียด
  •  กินคอลลาเจนหลังกินอาหาร – การกินคอลลาเจนให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือกินตอนที่ท้องว่าง เพราะระบบการทำงานในร่างกายจะสามารถดูซึมคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ถูกกรดในกะเพาะทำลาย
  •  กินคอลลาเจนร่วมกับดีท็อกซ์ – หากคุณกินคอลลาเจนควบคู่ไปกับการกินดีท็อกซ์ ควรกินดีท็อกซ์ก่อนคอลลาเจนประมาณ 2-3 ขม. เพราะหากกินพร้อมกันหรือกินติดต่อกันในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ตัวดีท๊อกซ์นั้นจะล้างคอลลาเจนออกมาไวเกินไป ทำให้คอลลาเจนถูกขับออกมาเร็วเกินไปในขณะที่ยังไม่มีการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย

รู้แบบนี้แล้ว ผู้บริโภคควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมทั้ง 6 อย่างนี้เพื่อให้การกินคอลลาเจนมีประสิทธิภาพสูงสุดและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

วิธีเลือกคอลลาเจน แบบไม่ผิดหวังกับผลลัพธ์

หลังจากที่เรารู้จักกับพฤติกรรมที่ทำให้กินคอลลาเจนแล้วไม่ได้ผล ต่อไปเรามาดู 6 วิธีกินคอลลาเจนยังไงให้ไม่ผิดหวังและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดกัน

1. กินคอลลาเจนในขณะที่ท้องว่าง

การกินคอลลาเจนให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดควรกินในช่วงเวลาที่ท้องว่างอย่างตอนเช้าหรือก่อนนอน เพราะขณะที่ท้องว่างร่างกายจะสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ถูกกรดในกระเพาะทำลาย

2. กินคอลลาเจนแบบผง ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าคอลลาเจนแบบเม็ด

คอลลาเจนมีหลากหลายรูปแบบทั้งแบบเม็ดหรือแบบผง แต่เราแนะนำให้เลือกกินคอลลาเจนในรูปแบบผงจะดีกว่า เพราะว่าการชงคอลลาเจนแบบผงจะสามารถดูดซึมเข้าร่างกายได้เร็วกว่าชนิดเม็ดและร่างกายสามารถนำไปใช้ได้เลย แต่คอลลาเจนชนิดเม็ดจะใช้เวลาในการละลายและซึมเข้าสู่ร่างกายประมาณ 20-30 นาที

3. ดื่มน้ำเปล่าตามในปริมาณที่มาก

การกินคอลลาเจนให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีควรดื่มน้ำเปล่าตามในปริมาณที่มากกว่าปกติ เพราะคอลลาเจนนั้นต้องการสารละลายเพื่อช่วยในการดูดซึมเข้าสู่ระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้ดีกว่าการดื่มน้ำแบบปกติ และยิ่งเราดื่มน้ำตามมาก ๆ ก็จะทำให้ร่างกายสามารถขับถ่ายของเสียได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งเป็นตัวช่วยเสริมที่ทำให้คอลลาเจนทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ทำไมกินคอลลาเจนมานาน แต่ไม่เห็นผล

4. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต

พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของเรา มีผลต่อการสูญเสียคอลลาเจนเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนไม่เพียงพอ การรับประทานอาหาร การลดความเครียด หรือการโดนแสงแดดและฝุ่นควันก็เป็นสาเหตุที่ทำให้คอลลาเจนสลายตัวอย่างรวดเร็วได้

5. รับประทานแหล่งคอลลาเจนอื่น ๆ ควบคู่กันไปด้วย

การรับประทานอาหารที่มีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบ แม้จะไม่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับการกินคอลลาเจนที่มาในรูปแบบของสารสกัดที่มีอยู่ในอาหารเสริม แต่ก็เป็นตัวช่วยสริมการทำงานของกันและกันอีกทางหนึ่งเช่นกัน โดยทั่วไปแล้วคอลลาเจนจะอยู่ในอาหารจำพวก ปลาแซลมอน ปลาทูน่า อโซคาโด มะกอกดำ มะกอกเขียว แครอท ถั่วต่าง ๆ หรือมะเขือเทศ หากคุณอยากลองรับประทานคอลลาเจน คุณอาจสนใจบทความนี้ คอลลาเจนลดรอยสิว

6. กินคอลลาเจนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

การกินคอลลาเจนให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีนั้นไม่ควรกินในปริมาณที่น้อยหรือมากเกินไป ซึ่งบางคนอาจจะคิดว่า ยิ่งกินมากยิ่งดี แต่นั่นคือความเชื่อที่ผิดเพราะหากร่างกายได้รับคอลลาเจนต่อวันมากเกินไปก็อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ซึ่งการกินคอลลาเจนให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีนั้นควรอยู่ในปริมาณ 5,000-7,000 มิลลิกรัม/วัน และไม่ควรกินเกิน 10,000 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อให้คอลลาเจนได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

ทีนี้เราก็รู้แล้วว่าทำไมกินคอลลาเจนมาตั้งนานยังไม่เห็นผลอะไรเลย เพราะเราอาจจะกินผิดวิธีหรือลองหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้กินแล้วไม่เห็นผล ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ผ่อนคลายความเครียด และกินในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายดูนะคะ

ที่มา :

  1. Watson. 7 วิธีกินคอลลาเจนให้ได้ผล ผิวขาวใส ฉบับสาววัยเลข 3  https://www.watsons.co.th/blog/th/skincare-tips-th/7-วิธีกินคอลลาเจนให้ได้ผ/
  2. Thairath.ชะลอแก่ แก้หน้าโทรม “คอลลาเจน” กินยังไงให้ได้ผลที่สุด?  https://www.thairath.co.th/women/beauty/health/1590148