คอลลาเจนวิตามินซี กินคู่กันแล้ว ได้ผลจริงหรือไม่ ?

คอลลาเจนวิตามินซี กินคู่กันแล้ว ได้ผลจริงหรือไม่ ?

ในปัจจุบันทุกคนหันมาดูแลสุขภาพของตัวเองมากขึ้น แน่นอนเลยว่าหนึ่งในธุรกิจอาหารเสริมที่กำลังเติบโต มาแรง มีการรีวิวที่น่าสนใจ ได้ผลจริง นั่นก็คือ อาหารเสริมอย่าง “คอลลาเจน” ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยให้สุขภาพดี แล้วยังมีผลไปถึงเรื่องของความงาม ทำให้ผิวพรรณสดใส กระจ่างใสอีกด้วย แต่สำหรับบางคนก็ยังไม่ได้ศึกษาเรื่องนี้ดีพอ ว่าแท้จริงแล้วการทานคอลลาเจนนั้นปลอดภัยหรือไม่ อีกทั้งมีประโยชน์ในด้านใดบ้าง วันนี้พวกเราจึงได้รวบรวมข้อมูลทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสารสกัดชนิดนี้ ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติ ประเภท ความน่าสนใจ และแน่นอนเลยว่า การกินคู่กับ  คอลลาเจนวิตามินซี  จะได้ผลเร็ว หรือ ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วจริงหรือไม่ โดยทุกคำตอบของทุกคำถามที่ทุกคนสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ที่แล้ว เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ติดตามอ่านกันได้ในบทความนี้ 


ทำความรู้จักคอลลาเจน

คอลลาเจนวิตามินซี

คอลลาเจน ชื่อนี้ที่หลายคนเคยได้ยิน พร้อมกับรู้จักเป็นอย่างดี เพราะเป็นสารสกัดที่มีประโยชน์ในเรื่องของการดูแลผิวพรรณ อีกทั้งส่วนใหญ่ผู้คนก็จะคิดว่า การกินคอลลาเจน จะได้ผลดี ส่งผลดีในเรื่องผิวพรรณเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่รู้หรือไม่ว่า คอลลาเจนนั้น เป็นส่วนประกอบของผิวหนัง เป็นตัวช่วยให้โครงสร้างผิวหนัง เรียบเนียน พร้อมกับยืดหยุ่นด้วย ซึ่งแน่นอนเลยว่าประโยชน์ของสารสกัดชนิดนี้ส่งผลดีต่อร่างกายในส่วนอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน 

สำหรับ คอลลาเจน คือโปรตีนชนิดหนึ่ง ที่เป็นส่วนประกอบของผิวหนัง โดยมีสัดส่วนที่มากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ด้วยกัน หน้าที่ของคอลลาเจนจะเป็นกาวให้กับโครงสร้างของเนื้อเยื่อต่าง ๆ ภายในร่างกาย ได้แก่ ผิวหนัง กล้ามเนื้อ กระดูก เอ็น เล็บ รวมทั้งข้อต่อภายในร่างกายด้วย จุดที่คอลลาเจนอยู่นั่นจะอยู่ที่ผิวหนังชั้นล่าง ดังนั้นการทาเพียงครีมกันแดดเพียงอย่างเดียว จะไม่ได้ช่วยบำรุงผิวในส่วนลึกได้ คอลลาเจนจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวพรรณให้สดใส  รวมทั้งร่างกายให้สมดุลอยู่เสมอนั่นเอง โดยคอลลาเจนจะมีมากถึง 16 ชนิดภายในร่างกาย โดยชนิดที่พบบ่อยได้แก่ 4 ชนิดอย่าง คอลลาเจนชนิดที่ 1, 2, 3, 5 ซึ่งแต่ละชนิดจะมีรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับร่างกายดังนี้

  • คอลลาเจนชนิดที่ 1 จะเป็นชนิดที่พบได้เยอะมากที่สุดภายในร่างกาย โดยชนิดนี้จะช่วยเสริมความยืดหยุ่น รวมทั้งการสมานแผล โดยจะพบได้ที่ผิวหนัง เส้นผม เนื้อเยื่อ และผนังหลอดเลือด 
  • คอลลาเจนชนิดที่ 2 จะเป็นชนิดที่มีความยืดหยุ่นมากกว่าชนิดแรก จะพบมาในส่วนของกระดูก กระดูกอ่อน และ ข้อต่อของร่างกาย ชนิดนี้จะมีหน้าที่ช่วยในการสร้างกระดูกอ่อนนั่นเอง
  • คอลลาเจนชนิดที่ 3 จะเป็นชนิดที่พบในผิวหนัง กล้ามเนื้อ และ หลอดเลือด 
  • คอลลาเจนชนิดที่ 5 จะสามารถพบได้ในบริเวณเดียวกันกับชนิดที่ 1 หรือ ส่วนของชั้นใต้ผิวหนัง กับ เนื้อเยื่อของทารกในระหว่างตั้งครรภ์นั่นเอง 

สำหรับคอลลาเจนทั้งหมด 4 ชนิด มีหน้าที่ต่างกัน โดยจะช่วยให้ร่างกายมีความยืดหยุ่น กระจายอยู่ทั่วร่างกาย ทำให้ร่างกาย ผิวพรรณสมดุล แต่เมื่อเราเองนั้นมีอายุที่มากขึ้นเข้าหลักเลข 4 การสร้างคอลลาเจนภายในร่างกายจะเปลี่ยนไป นั่นก็คือ จะลดลงประมาณร้อยละ 1 ต่อปี แน่นอนว่าการสร้างที่ลดลง แต่การใช้เท่าเดิม ทำให้ปริมาณคอลลาเจนในร่างกายของเรานั้นลดลงเรื่อย ๆ ส่งผลให้เมื่อขาดคอลลาเจนในผิวหนัง ก็จะทำให้ใต้ผิวหนังเกิดริ้วรอย เมื่ออายุมากขึ้น ที่สำคัญ ระบบร่างกายในส่วนต่าง ๆ ก็จะรู้สึกแย่ลงไปด้วยนั่นเอง และนี่ก็คือ “คอลลาเจน” สารสกัดสำคัญที่มีประโยชน์มากต่อร่างกาย และ ความงาม  นอกจากนี้ยังมีอีกรูปแบบของประเภทที่คุณควรรู้จักไว้ ซึ่งสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ทำความรู้จัก คอลลาเจนไตรเปปไทด์ 


Hydrolyzed Collagen ดีอย่างไร? 

สำหรับใครที่เคยได้เห็นคำนี้ ไฮโดรไลซ์คอลลาเจน มาบ้างแล้ว แต่อาจจะไม่เข้าใจ เพราะนี่ก็คือ คอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการย่อยบางส่วนมาแล้ว ซึ่งเป็นกระบวนการที่ปลอดภัย ได้รับการรับรอง  เมื่อผ่านกระบวนการนี้ จะทำให้คอลลาเจนมีขนาดที่เล็กลง ด้วยอนุภาคที่เล็กลงจะส่งผลให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่าย ดูดซึมได้ดีกว่าคอลลาเจนทั่วไปด้วย ดังนั้นแล้วถ้าหากว่าจะเลือกซื้อคอลลาเจนมาทานถ้ามีกระบวนการ Hydrolyzed Collagen ก็ขอแนะนำ เพราะจะทำให้คุณเห็นผลได้เร็วกว่าแบบทั่วไป

ซึ่งผลดีสำหรับการดูดซึมได้เร็วนั้น คอลลาเจน จะช่วยสร้างเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ลดริ้วรอย ลดความเหี่ยวย่นอย่างได้ผล อีกทั้งโครงสร้างของร่างกายที่จำเป็นจะต้องมีส่วนของคอลลาเจนเข้าไปช่วยเสริมโครงสร้างให้แข็งแรงมากขึ้น ให้ร่างกายยืดหยุ่นได้ดี ผิวพรรณที่กระจ่างใส สุขภาพผิวดีทั่วร่างกาย นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ใครหลายคนดูอ่อนกว่าวัย 


เรียนรู้เรื่องอัตราเสื่อมของ คอลลาเจน 

 คอลลาเจนวิตามินซี

อันตราการเสื่อมของ คอลลาเจน หรือ อัตราการกดเสื่อมนั้น เป็นสิ่งต้องรู้เอาไว้ด้วย เพราะสำหรับผู้ที่ไม่เคยทานคอลลาเจน หรือ ไม่รู้จักคอลลาเจนเลย อาจจะไม่ได้สนใจว่าในช่วงเวลาใดร่างกายจะเป็นอย่างไร เพราะเมื่ออายุถึงเลข 3 แล้วนั้น อัตราการเผาผลาญ รวมท้งระบบร่างกายก็จะยิ่งถดถอยลงไปตามกาลเวลา รวมไปถึงความเต่งตึง ริ้วรอย ที่ในปัจจุบันนี้ อาจจะทำให้เกิดขึ้นก่อนเวลาได้เช่นเดียวกัน  โดยมีอายุกับอัตราการเสื่อม 4 ช่วงเวลา ดังต่อไปนี้ 

1.อายุ 30-39 ปี 

สำหรับในช่วงเวลานี้ ผิวจะเริ่มมีรอยย่นบาง ๆ ยาวไปจนถึงบริเวณหน้าผาก มีริ้วรอยเล็ก ๆ ประกอบเข้ามาด้วย ในส่วนของใต้ขอบตาล่าง กับ หางตา จะเห็นรอยชัดขึ้น รอยเหี่ยวย่นระหว่างคิ้วก็เห็นชัดขึ้นเช่นกัน ในช่วงอายุนี้

2.อายุ 40-49 ปี 

ในช่วงเวลานี้รอยเหี่ยวย่นบนหน้าผาก จะชัดเจนมากขึ้น รวมทั้งรอยย่นข้างแก้ม กับ ตัวร่องแก้มก็จะลึกทอดยาวไปจนถึงมุมปาก อีกทั้งยังมีฝ้าชนิดลึกมากขึ้นที่ผิว โดยรวมผิวเริ่มแห้งขึ้น รูขุมขนกว้างขึ้น ในบางรายอาจจะมีติ่งเนื้อขึ้นกระจัดกระจายเป็นตุ่มเล็ก ๆ 

3.อายุ 50-64 ปี 

สำหรับในวัยนี้คอลลาเจนจะผลิตออกมาน้อยลง ทำให้มีรอยย่นที่แก้มชัดขึ้น บางรายจะยาวไปถึงมุมปาก เนื้อตามร่างกายหย่อนลงตามวัย 

4.อายุ 65 ปี ขึ้นไป 

จะมีผิวหนังที่หยาบกร้าน มีริ้วรอยทั่วใบหน้า ริมฝีปากมีรอยย่น การเปลี่ยนแปลงจะคล้ายกับในช่วง 50-64 ปี ซึ่งเป็นรอยที่เราไม่สามารถที่จะหยุดยั้งได้แล้ว ซึ่งในช่วงนี้เป็นช่วงที่คอลลาเจนผลิตออกมาน้อยตามอายุ

จะเห็นได้ว่าใน 4 ช่วงเวลาที่พูดถึงนั้น จะเป็นช่วงเวลาที่คอลลาเจนผลิตออกมาไม่เท่ากับการใช้งาน เพราะเริ่มเข้าสู่วัยชรา ซึ่งเป็นวัยที่ทุกอย่างนั้นถดถอยลงมากกว่าการเติบโต ช่วงเวลาที่สำคัญนี้อันตรายเป็นอย่างมากสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือ อยู่ในความเสี่ยงที่จะเกิดโรค เพราะว่าจะป่วยง่าย ร่างกายอ่อนแอ ดังนั้นแล้ว จึงจะต้องเพิ่มภูมิต้านทานด้วยวิตามินชนิดต่าง ๆ โดยเฉพาะวิตามิน ซี ที่จะทำงานร่วมกับ สารสกัดอย่างคอลลาเจนได้ดีเลยทีเดียว


ทำไมกิน คอลลาเจนวิตามินซี กินคู่กันแล้วถึงได้ผลดีกว่า

คอลลาเจนวิตามินซี

ข่าวลือที่เป็นเรื่องจริง เกี่ยวกับการทานคอลลาเจนคู่กับวิตามินซี ที่จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี รวดเร็ว มากกว่าการกินคอลลาเจนปกติ แน่นอนเลยว่าเรื่องนี้สามารถอธิบายได้ถึงคุณสมบัติของวิตามินซี ที่เป็นตัวช่วยให้การดูดซึมของคอลลาเจนนั้นดีตามไปด้วย ส่งผลให้ช่วยเร่งให้เกิดผลเร็ว ผิวขาวเร็ว ได้ประโยชน์รวดเร็วมากกว่าการกินในสูตรอื่น ๆ แต่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนกับเรื่องระบบการดูดซึม และ การเผาผลาญนั่นเอง ซึ่งกินแบบไหนได้ผลดีที่คุณนั้น อ่านต่อได้ที่ คอลลาเจนแบบไหนได้ผลจริง?


เรื่องราวน่ารู้ของ วิตามิน ซี

สำหรับ “วิตามิน ซี” จะเป็นสารสกัดที่มีคุณสมบัติเด่น ๆ อย่างเช่น การต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ ซึ่งจะทำให้ภูมิต้านทานของร่างกาย รวมทั้งการบำรุงผิวพรรณนั้นเป็นผลดีตามไปด้วย โดยปกติแล้ว เรานั้นควรทานวิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ในกลุ่มผู้ที่เป็นหวัดบ่อย ๆ จะต้องทานวันละ 2,000 มิลลิกรัม ซึ่งจะช่วยให้ไม่เป็นหวัดบ่อยนั่นเอง สิ่งที่ควรรู้เพิ่มเติมก็คือ เรื่องราวของวิตามินซี ที่ทำงานส่งเสริมให้คอลลาเจนทำงานได้ดีนั้นจะต้องทานในช่วงเวลาที่กำหนดด้วย ซึ่งพวกเราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ เคล็ดลับการทานวิตามิน ซี ให้ได้คุณค่าที่สูงสุด ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 

คอลลาเจนแบบไหนได้ผลจริง?

1.ทานพร้อมอาหารมื้อเช้า และ มื้อเย็น

เพราะว่าวิตามินจะถูกจับออกภายใน 2-3 ชั่วโมง ซึ่งตัวเราจะต้องรักษาระดับวิตามินซีในเลือดให้สูง จะเป็นสิ่งที่สำคัญต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก ดังนั้นการทานพร้อมอาหารมื้อเช้า กับ มื้อเย็น จะเปรียบดั่งเป็นการเพิ่มพลังในยามเช้า และ การเสียพลังงานมาแล้วทั้งวันนั่นเอง

2.บรรเทาหวัดได้ เพียงทานวิตามินซี วันละ 2 เวลา

ใครที่เป็นหวัดบ่อย หรือ เป็นหวัดอยู่ ให้ทานวิตามินซี วันละ 2 เวลา ในปริมาณ 1,000 มิลลิกรัมต่อมื้อ แต่นอนเลยว่า จะช่วยให้ระดับฮิสตามีน สมดุลขึ้น ทำให้น้ำมูกไหลลดลงได้ถึงร้อยละ 40 

3.ผู้ที่เป็นเบาหวาน ควรรับประทานวิตามินซี วันละ 1,000 มิลลิกรัม 

สำหรับวิตามินซี จะช่วยในการลดสารอนุมูลอิสระ รวมทั้งการอักเสบของหลอดเลือด ซึ่งจะช่วยป้องกันอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ด้วย แน่นอนเลยว่าผู้ป่วยเบาหวานสามารถทานวิตามินซีได้อย่างมั่นใจ 

4.เร่งประสิทธิภาพให้กับวิตามินซี

สำหรับวิตามินซีนั้น ถ้าทานคู่กับ แคลเซียม แมกนีเซียม กับ ไอโอฟลาโวนอยด์ จะทำให้ประสิทธิภาพของวิตามินซีนั้นดีขึ้น 

เมื่อได้รับวิตามินซี เกินขนาดจะส่งผลต่อร่างกายอย่าง อาการท้องเสีย โดยจะเกิดขึ้นเมื่อได้รับวิตามินซีในปริมาณที่สูงมากถึง 8,000 มิลลิกรัมขึ้นไป แน่นอนว่าไม่น่ามีใครได้รับเยอะเท่านั้น แต่สำหรับบางคนก็สามารถย่อยวิตามินซีได้วันละหลายกรัมเลยทีเดียว 

เพราะว่าวิตามินซี เป็นสารสกัดที่ต้านอนุมูลอิสระ จึงทำให้ไปช่วยเรื่องของการดูดซึมคอลลาเจน ทำให้ผิวขาวใสเปล่งปลั่ง แน่นอนว่าการทำงานร่วมกันของทั้งคู่จึงเกิดขึ้นได้จริงเกี่ยวกับคำว่าที่บอกว่า การกินคอลลาเจน กับ วิตามิน ซี จะทำให้เห็นผลเร็ว ผิวกระจ่างใส ซึ่งนี่คือเรื่องจริงที่คุณเองสามารถนำไปใช้งานได้เลย


เคล็ดลับการกิน คอลลาเจนคู่กับวิตามินซี อย่างไรให้ได้ผล

คอลลาเจนวิตามินซี

วิตามินซี เป็นอีกหนึ่งสารสกัดที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในส่วนของทานแล้วผิวสวย กระจ่างใส อย่างไรก็ตามถ้าอยากได้ผลลัพธ์ของการทานคอลลาเจนได้เร็ว จะต้องทานคู่กับวิตามินซี ซึ่งจะทำให้ได้ผลอย่างชัดเจนเร็วที่สุด โดยมีเคล็ดลับในการกิน ดังต่อไปนี้

1.ทานคู่กับวิตามินซีธรรมชาติ

การทานคอลลาเจน เมื่อเราทานแบบปกติอยู่แล้ว ให้รับประทานผัก หรือ ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงเข้าไปด้วย เพราะวิตามินซีแบบธรรมชาติ จะทำให้คุณได้รับวิตามินที่แท้จริง รวมทั้งมีกากใยของผลไม้ที่จะทำให้ขับถ่ายได้คล่องด้วย สำหรับภายในร่างกาย วิตามิน ซี กับ คอลลาเจน จะทำงานร่วมกัน โดยจะช่วยให้ดูดซึมสารอาหารได้อย่างสะดวก และ ผลดีต่อการขับถ่ายได้ 

2.ทานคู่กับอาหารเสริม วิตามินซี 

สำหรับใครที่อ่านในข้อแรกแล้วไม่สามารถที่จะรับประทานผัก หรือ ผลไม้ได้สะดวก ให้เลือกวิตามินซีในรูปแบบของอาหารเสริม ก็จะสามารถช่วยได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น อาหารเสริมวิตามินซีแบบเม็ด หรือแบบอื่น ๆตามที่สะดวก แต่จะต้องจำกัดปริมาณในการรับประทานด้วย เพราะอาจจะส่งผลให้ท้องเสียได้

3.รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่

เมื่อทานอาหารเสริมอย่าง คอลลาเจน หรือ วิตามินซีแล้ว ยังคงต้องทานอาหารให้ครบ 5 หมู่อยู่เช่นเดิม เพราะว่าจะเป็นอาหารหลักที่จะช่วยให้ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับการดูดซึมของวิตามินซี และ คอลลาเจน สามารถเกิดผลลัพธ์ได้ดีขึ้นด้วย

4.หลีกเลี่ยงแสงแดด หรือ ปัจจัยทำร้ายผิว

ปัจจัยที่ทำร้ายผิวนั่นก็คือ แสงแดด ซึ่งเราจะต้องหลีกเลี่ยง หรือ ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ใช้ครีมกันแดด รวมทั้งครีมบำรุงเพิ่มเข้าไปด้วย ซึ่งจะทำให้เห็นผลได้เร็วขึ้น ปัจจัยอื่นที่ส่งผลเสียต่อร่างกายก็จะต้องลดลง เช่น การรับประทานหวาน รวมทั้งการสูบบุหรี่ หรือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งจะทำให้วิตามินซี หรือ คอลลาเจน ไม่สามาถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพนั่นเอง

5.พักผ่อน ลดความเครียด 

การพักผ่อนให้เพียงพอ ก็คือการนอนหลับ แต่แท้จริงแล้ว การพักผ่อนมักจะมาในรูปแบบของกิจกรรมอื่น ๆ ได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น การออกกำลังกาย เล่นกีฬา หรือ มองหางานอดิเรกที่ช่วยทำให้จิตใจดีขึ้น เพราะจะส่งผลให้ลดความเครียดในการใช้ชีวิต หรือ การทำงานในปัจจุบัน แน่นอนเลยว่านี่แหละคือประโยชน์ที่ดีต่อกันมาทำให้ประสิทธิภาพของการดูแลสุขภาพเห็นผลได้ชัดเจนมากขึ้น 


สำหรับทั้ง 5 ข้อนี้จะเป็นเคล็ดลับในการทานวิตามินซี คู่กับ คอลลาเจนในแบบฉบับง่าย ๆ ที่คุณเองก็สามารถทำได้ ยิ่งไปกว่านั้น จะส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของทั้งคู่เกิดผลได้รวดเร็วทันตาเห็นแน่นอน แต่สำหรับในบางรายก็อาจจะเห็นผลช้า ซึ่งขึ้นอยู่กับระบบการเผาผลาญของร่างกาย กับ ระบบดูดซึมที่กำลังปรับตัว อย่างไรก็ตามต้องอดทนรอกันสักหน่อยสำหรับการดูแลตัวเอง สำหรับใครที่อยากผิวสวย สุขภาพดีด้วยคอลลาเจน แนะนำเลยให้ทานคู่กับวิตามินซี เพราะว่าจะช่วยกันเร่งให้ผิวสวยเร็วขึ้น ที่สำคัญการพัฒนาจากภายในจะทำให้ภายนอกนั้นแข็งแรงอย่างยั่งยืนด้วยนั่นเอง พวกเราหวังว่าข้อมูลทั้งหมดในวันนี้จะทำให้คนรักสุขภาพเข้าใจความหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้น สุดท้ายนี้ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่กำลังพยายามหันกลับมาดูแลตัวเอง เชื่อเลยว่าไม่มีช่วงเวลาไหนที่สายเกินไป 


อ้างอิงจาก:

https://www.bangkokhospital.com/content/know-vitamin-c-deeply

https://www.nestle.co.th/th/nhw/3e/eat/eating-tips-to-boost-collagen-production