คอลลาเจนกับวิตามินซี กินตอนไหน ? เจาะลึกทำไมกินคู่กันแล้วดี
เรื่องราวที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเรื่องที่ผู้คนหันมาสนใจเรื่องสุขภาพผิว กับ สุขภาพร่างกันมากขึ้น ด้วยการผ่านวิกฤติอย่าง โรคระบาด COVID-19 กันมาได้ ก็เรียกได้ว่าทำเอาบางคนแทบจะสาหัสไปเลยในชีวิต ยิ่งไปกว่านั้น เทรนด์ในการหันกลับมาดูแลสุขภาพ ก็ยังทำได้หลากหลายวิธีกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกาย เล่นโคยะ ฟิตเนส หรือ การควบคุมอาหาร นับแคลอรี่ ทานอาหารเสริม รวมไปถึงสินค้าที่กำลังได้รับความนิยมในตลาดนั่นก็คือ “คอลลาเจน” นั่นเอง โดยผู้ที่ทานตัวจริงเสียงจริง ได้ออกมารีวิวแล้วว่า ได้ผลจริง ผิวขาวกระจ่างใส ทุกอย่างดูอ่อนกว่าวัย เพราะทานคอลลาเจน แต่เรื่องนี้ก็มีอีกหลายเสียงบอกว่าต้องทานคู่กันกับวิตามินซี จะได้เห็นผลเร็วที่สุด ซึ่งเรื่องนี้จะมีข้อเท็จจริเป็นอย่างไร วันนี้พวกเราได้รวบรวมเนื้อหาที่สำคัญ พร้อมกับมาเจาะเห็นผลกันแล้วว่า ทำไมกินคู่กันถึงดี คอลลาเจนกับวิตามินซีกินตอนไหน รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ในบทความนี้
คอลลาเจนคืออะไร ?
ก่อนที่จะไปพูดถึงเรื่องอื่นใด ต้องขอแนะนำพาทุกคนไปรู้จักกับ คอลลาเจนกันก่อนดีกว่า เพราะว่าบางคนก็อาจจะได้ข้อมูลที่ผิดพลาดมาจากผู้ขาย ตั้งแต่เรื่องทำให้ผิวขาว หรือ ทำให้ผิวดี แต่แท้จริงแล้ว ความหมายของ คอลลาเจน รวมทั้งคุณสมบัติที่เรื่องที่สำคัญมากกว่านั้นมากกว่าข้อมูลที่คุณได้รู้มา
คอลลาเจน คือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบหลังของผิวหนัง โดยจะมีสัดส่วนอยู่สูงถึง 80% เลยทีเดียว การทำหน้าที่ของคอลลาเจน จะทำหน้าที่เหมือนเป็นกาว กับ โครงสร้างของเนื้อเยื่อต่าง ๆในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของผิวหนัง กล้ามเนื้อ เล็บ เอ็น ข้อ กระดูก ซึ่งจะอยู่ที่ผิวหนังชั้นล่าง หรือ ชั้นหนังแท้ ดังนั้นการทาครีมทั่วไปจะไม่มีผลโดยตรงมาถึงคอลลาเจนในผิวหนัง
เราจึงต้องมีการเสริมเข้าไป เพราะว่าเมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายก็จะผลิตคอลลาเจนได้น้อยลงนั่นเอง โดยในร่างกายของเรานั้นจะพบได้มากถึง 16 ชนิดด้วยกัน แต่จะมี 4 ชนิดที่สามารถพบได้บ่อยซึ่งจะมีดังต่อไปนี้
- คอลลาเจนชนิดที่ 1 / Collagen Type I : จะเป็นชนิดที่พบได้มากที่สุดในร่างกาย จะช่วยเสริมความยืดหยึ่น กรสมานแผล สามารถพบได้ในผิวหนัง เส้นผม เนื้อเยื่อ กระดูก รวมทั้งผนังหลอดเลือดด้วย
- คอลลาเจนชนิดที่ 2 / Collagen Type II : จะเป็นชนิดที่มีความยืดหยุ่นมากกว่าชนิดแรก จะพบมากในกระดูก กระดูกอ่อน เป็นต้น จะมีหน้าที่ช่วยในการสร้างกระดูกอ่อนด้วย คุณสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติทได้ที่ ทำความรู้จักกับ คอลลาเจนไทพ์ทู
- คอลลาเจนชนิดที่ 3 / Collagen Type III : จะเป็นชนิดที่พบในผิวหนัง กล้ามเนื้อ และ หลอดเลือด
- คอลลาเจนชนิดที่ 5 / Collagen Type V : จะเป็นคอลลาเจน ชนิดที่สามารถพบได้เหมือนกับชนิดที่ 1 หรือ ใต้ชั้นผิวหนัง
เรียกได้ว่าคอลลาเจนนั้นจะกระจายไปอยู่ทั่วร่างกายของเรา ซึ่งปกติแล้วร่างกายจะมีการสร้าง การสลายคอลลาเจน ในระดับที่สมดุลกัน แต่ข้อจำกัดก็คือ เมื่ออายุ 40 ขึ้นไป ร่างกายก็จะสร้างคอลลาเจนลดลงประมาณร้อยละ 1 ต่อปี ในขณะที่การสลายคอลลาเจนยังเท่าเดิม ส่งผลชัดเจนว่าความแข็งแรงของผิวจะลดลงเมื่อายุมากขั้นนั่นเอง และ ที่สำคัญก็จะพบว่าเมื่อคอลลาเจนใต้ผิวหนังลดลงก็จะเกิดริ้วรอยตามมาด้วย
ประโยชน์ของคอลลาเจน
คราวนี้มาดูประโยชน์ที่แท้จริง เอาแบบชัด ๆ ของคอลลาเจนกันบ้าง เพราะว่ามีหลายคนสงสัยเป็นอย่างมากว่า ถ้ากินคอลลาเจนไปแล้ว จะส่งผลอะไรบ้าง โดยมีงานวิจัยที่ได้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่อง คอลลาเจน เอาไว้แล้ว โดยจะมีประโยชน์ดังต่อไปนี้
- จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ความชุ่มชื้น ความฟู รวมทั้งลดความหยาบ ความกร้านของผิว
- จะช่วยทำให้ริ้วรอยที่เห็นได้ชัดนั้น ดูจางลง
- ช่วยทำให้ลดการเปราะแตก ของเล็บ
- ช่วยชะลอการสลายของมวลกระดูก เมื่อได้กินคู่กับ แคลเซียม รวมทั้ง วิตามินดี
- ช่วยเรื่องสุขภาพของผู้สูงอายุ เช่น อาการปวดข้อ สามารถบรรเทาได้ด้วยการทานคอลลาเจน
ดังนั้นแล้วการที่จะทานคอลลาเจนให้ได้ผล ก็ควรที่จะทานคอลลาเจนแบบ Hydrolyzed Collagen เพราะว่าเป็นคอลลาเจนที่ผ่านการ ไฮโดรไลซ์ จนทำให้มีขนาดเล็กลง ทำให้ร่างกายดูดซึมง่าย เป็นองค์ประกอบของการสร้างคอลลาเจนของร่างกาย โดยปริมาณเมื่อกินในวันที่ 1 จะปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง จะต้องกินในปริมาณ 2.5-15 กรัม อย่างไรก็ตามการทานคู่กับอาหาร หรือ วิตามินอื่น ๆก็จะช่วยกระตุ้นให้การทำงานของคอลลาเจนมีประสิทธิภาพขึ้น นั่นรวมไปถึงการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้รวดเร็วด้วย โดยจะมี วิตามิน C เป็นอันดับ 1 ในเรื่องนี้
คอลลาเจนกับวิตามินซีทำงานร่วมกันอย่างไร ?
ทำไม วิตามิน ซี ถึงเป็นอันดับ 1 ในการทานคู่กับคอลลาเจน แล้วเห็นผลดี ซึ่งนั่นก็เพราะว่า วิตามินซี จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน พร้อมทั้งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ จะช่วยให้ชะลอการสลายของคอลลาเจนได้เป็นอย่างดีด้วย โดยแหล่งของวิตามินซีนั้นก็ควรที่จะมาจากธรรมชาติเช่น ผัก ผลไม้ต่าง ๆ
เรื่องราวของ “วิตามิน ซี” ที่แท้จริงแล้ว ทางเคมีเรียกว่า กรดแอสคอร์บิค แต่พูดไปแบบนี้หลายคนคงไม่เข้าใจ เอาเป็นว่าวิตามินชนิดนี้ มีบทบาทต่อการสร้างคอลลาเจน รวมไปถึงงานวิจัยที่พบว่า การรับประทานวิตามินซีในปริมาณที่เพียงพอ ก็จะช่วยลดการสร้างเอนไซม์เมริกซ์เมทัลโปรตีเนส ได้ เพราะจะเป็นการทำให้ “คอลลาเจนถูกทำลายน้อยลง” นั่นเอง
ดังนั้นแล้ว จะเห็นได้ว่า ประโยชน์ของวิตามินซี เมื่อทานคู่กับ คอลลาเจนแล้ว จะส่งผลดีที่สุด เปรียบดั่งการเพิ่มเข้ามาของคอลลาเจน แต่การสลายของคอลลาเจนที่ลดลง แถมการดูดซับที่รวดเร็วขึ้นเพราะ วิตามิน ซี ไปกระตุ้นก็ยิ่งเป็นเรื่องดีเข้าไปอีก นี่แหละคือการทำงานร่วมกันของ คอลลาเจน กับ วิตามิน ซี ที่มีงานวิจัยมาแล้วจากทุกมุมโลกว่า สามารถเป็นผลลัพธ์ได้จริง
คอลลาเจนกับวิตามินซีกินตอนไหน ?
เป็นคำถามที่หลายคนอยากรู้เป็นอย่างมาก เพราะว่าการกินคอลลาเจน กับ วิตามินซี จะต้องมีช่วงเวลาหรือไม่ ? หรือ คอลลาเจนกับวิตามินซี กินคู่กันได้ผลจริงหรือ? แต่ก่อนอื่นเลยต้องขอพูดถึงว่า วิตามิน ซี เป็นสารอาหารชั้นหนึ่งสำหรับร่างกายของเราเลยทีเดียว ซึ่งจะส่งผลในเรื่องของประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับมากมาย ป้องกันการติดเชื้อ เร่งการฟื้นตัว รวมทั้ง เต็มไปด้วยสารต้าอนุมูลอิสระด้วย ดังนั้นเมื่อมาจับคู่กับ คอลลาเจน ที่มีคุณสมบัติคล้ายกัน นี่แหละจึงทำให้การกระตุ้นนั้นทำได้ดีมากขึ้น ส่วนช่วงเวลาที่ดีที่สุดของการทานคู่กันก็คือ
- ช่วงเวลาที่ดีที่สุด “เพื่อกินวิตามินซี” : วิตามินซี เป็นสารอาหารที่ประโยชน์ ส่วนใหญ่แล้วจะละลายน้ำได้ ดูดซึมได้ดีในขณะที่ท้องว่าง โดยเวลาที่ควรทานคือ ในตอนเช้า ก่อนอาหาร 30-45 นาที ส่วนในมื้ออื่น ก็ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีช่วงว่างที่ดีหลังมื้ออาหาร เพื่อการดูดซึมที่ดีหรือไม่
- ช่วงเวลาที่ดีที่สุด “เพื่อกินคอลลาเจน” : การทานคอลลาเจนนั้น มีสูตรการทานกับ ช่วงเวลาที่ที่สุดสุดเช่นกัน นั่นก็คือ ช่วงตอนเช้า กับ หลังมื้ออาหาร รวมไปถึงตอนก่อนนอน จะเป็น 3 ช่วงเวลาที่จะมีประสิทธิภาพดีที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นช่วงกลางคืน ร่างกายจะฟื้นตัวตามธรรมชาติ พร้อมทั้งดูดซึมคอลลาเจนเข้าสู่ผิวได้ดีที่สุด ในขณะที่เรานอนหลับ
นี่คือสิ่งที่เรียบง่าย จึงนำมารวมกันได้ว่า การทานวิตามินซี คู่กับ คอลลาเจน กินตอนเช้า ก่อนอาหารสัก 30-45 นาทีก็จะได้ประโยนชน์สูงสุด รวมทั้งการกินก่อนนอนของ คอลลาเจน ก็จะทำให้ร่างกายดูดซึมได้ดีด้วยเช่นเดียวกัน อีกทั้ยงในปัจจุบันก็จะต้องเลือกรูปแบบคอลลาเจนแบบ ไดเปปไทด์กันได้แล้ว เพราะจะดูดซึมได้เร็ว ได้มากกว่าแบบอื่น ๆ
คอลาเจนกินกับวิตามินซียังไงให้ได้ประโยชน์สูงสุด ?
อย่างที่ได้ทราบกันดีว่า วิตามิน ซี คือหนึ่งในสารอาหารที่จะกระตุ้นให้ คอลลาเจน ทำงานได้ดีขึ้น พร้อมทั้งประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งจะยังมี 6 วิธีที่จะช่วยให้กินแล้วได้ประโยชน์สูงสุดมากกว่าเดิมด้วยดังต่อไปนี้
1.ดื่มน้ำตามมาก ๆ เมื่อทานคู่กับวิตามินซี
น้ำดื่ม คือ ปัจจัยหลักที่ร่างกายต้องการอยู่แล้ว เพราะเป็นหนึ่งในตัวที่ควบคุมความสมดุลในร่างกาย ช่วยทำให้อวัยวะในร่างกายทำงานปกติ โดยการทำงานของวิตามิน ซี กับ คอลลาเจน เมื่อได้กินเข้าไปแล้วนั้น การดื่มน้ำตามมาก ๆ ก็จะทำให้ร่างกายนั้นดูดซับได้เร็วขึ้น เพราะมีการแตกตัวได้ดี
2.กินวิตามินอย่างพอดี
การทานวิตามินซี อย่างพอดี จะส่งผลให้เกิดประโยชน์ได้สูงสุด เพราะการไม่ทานน้อยเกิดนไปเพราะทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่น้อยลง เป็นหวัดง่ายขึ้น แต่ถ้าหากว่าทานมากเกินไปร่างกายก็จะได้รับผลกระทบอื่น ๆ ได้ เช่น ปวดท้อง หรือ ท้องเสียนั่นเอง ดังนั้นควรเลือกทานให้พอดีกับร่างกาย ในปริมาณ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน
3.ควรเลือกวิตามินที่เหมาะกับเรามากที่สุด
การเลือกวิตามินซี ที่เหมาะกับตัวเรามากที่สุดนั้นสำคัญ เพราะการทานง่ายก็จะช่วยให้ได้รับประสิทธิภาพสูงสุดเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นแบบเม็ด ที่จะระคายเคืองกระเพาะอาหารน้อย หรือ แบบอม ที่มีปัญหาเรื่องการกลืนยา หรือ แบบเคี้ยว หรือจะเป็นวิตามินเม็ดฟู่ ซึ่งแบบที่เหมาะสมจะทำให้เรากินได้อย่างมีความสุขมากขึ้น
4.ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
การทานวิตามิน ซี คู่กับ คอลลาเจน ไม่ใช่ว่าจะเกิดนผลลัพธ์ได้เพียงการทานเพียงเท่านี้ แต่ทว่าจะต้องรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ด้วย โดยจะประกอบไปด้วย คาร์โบไฮเดรด,โปรตีน,วิตามิน,ไขมัน,เกลือแร่ โดยแต่ละมื้อจะต้องได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน เพื่อให้ร่างกายยังคงสร้าง คอลลาเจน ด้วยตัวเองอยู่เป็นประจำด้วย นี่แหละจะทำให้การทานคู่กันระหว่างคอลลาเจน และ วิตามินซี เห็นผลดีที่สุด
5.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ร่างกายนั้น มีการเตรียมพร้อม เสริมสร้างกระดูก กล้ามเนื้อให้แข็งแรง มีการนำพลังงานไปใช้ได้อย่างถูกต้อง พร้อมทั้งเผาผลาญพลังงานส่วนเกิดในแต่ละวันด้วย เช่นเดียวกัน เมื่อทานวิตามินซี ร่วมกับ คอลลาเจน การออกกำลังกายแบบเบา ๆ หรือ การเล่นโยคะ ก็จะมีส่วนทำให้สารอาหารสามารถดูดซึมเข้าร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
6.พักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนพักผ่อน เป็นการพักผ่อนร่างกายที่ดีที่สุด แต่จะต้องให้เพียงพอเท่านั้น ไม่ควรนอนเกินเวลา หรือ นอนน้อยกว่าที่มาตรฐานกำหนดคือ วันละ 8 ชั่วโมง สำหรับใครที่กำลังพบเจอปัญหานี้จะต้องแก้ไข เพราะเมื่อนาฬิกาชีวิตเปลี่ยน ฮอร์โมนในร่างกายก็จะทำงานไม่ปกติ ส่งผลให้การดูดซึมสารอาหารอย่าง คอลลาเจน กับ วิตามินซี ทำงานได้ไม่เต็มที่
แต่ถ้าหากว่าปรับเวลาการนอน หรือ การพักผ่อนใหม่ จะทำให้คุณดูสดใสขึ้น ร่างกายแข็งแรง ไร้ความเครียด กังวล การทานอาหารเสริมอย่างคอลลาเจน หรือ วิตามินซี ก็จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ได้ดีขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะช่วงเวลาที่ดูดซึมสารอาหารได้ดีที่สุดคือ ช่วงตอนเช้าและก่อนนอนนั่นเอง หากคุณรับประทานคอลลาเจนแล้วรู้สึกแปลกๆ คุณอาจลองอ่านบทความนี้ แพ้คอลลาเจนอาการเป็นอย่างไร
ทีนี้กฌรู้แล้ว คอลลาเจนกับวิตามินซีกินตอนไหน กินแล้วดีอย่างไร เรียกได้ว่าในปัจจุบันเป็นอีกหนึ่งธุรกิจอาหารเสริมที่กำลังมาแรง ได้ผลจริง ดีต่อสุขภาพอย่างแท้จริง การทานคู่กับอาหาร หรือ วิตามิน ก็มีส่วนช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซับได้ดีขึ้นเช่นเดียวกัน นอกจากวิตามิน ซี แล้วนั้น คอลลาเจน ยังสามารถทานคู่กับวิตามินตัวอื่นก็สามารถช่วยให้ได้ผลดีเช่นเดียวกัน หลังจากที่ได้รู้เกี่ยวกับประโยชน์ของทั้งคู่ไปแล้ว เชื่อเลยว่าจะเป็นสารอาหารที่ช่วยให้ร่างกายกลับมาฟื้นตัวได้เร็ว เมื่อทานคู่กัน ในเวลาที่เหมาะสม ก็จะเกิดประโยชน์สูงสุด เพิ่มเข้าไปมาก แต่ร่างกลายสลายน้อยลง นับได้ว่าเป็นผลดีของคอลลาเจนในร่างกาย ซึ่งผลลัพธ์ที่ดีตามมาก็คือ ผิวพรรณที่สุขภาพดี เปล่งประกายมากขึ้น รวมไปถึงภูมิคุ้มกันในร่างกายที่ได้รับการดูแลจาก วิตามิน ซี นั่นเอง